LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
การเดินทาง ไม่ว่าจะแบ็คแพ็คหรือขี่มอเตอร์ไซค์ บางครั้งจุดหมายไม่ใช่ ‘สถานที่’ ที่เราจะไป แต่เป็น ‘ใครสักคน’ ที่เราคิดถึงและทำให้การเดินทางนั้นเริ่มต้นขึ้น



เพื่อนหลิงชื่อ หนิง มีพี่สาวชื่อ พี่นุ่ม กับ พี่นิ่ม พี่สาวเพื่อนก็เหมือนเพื่อนเรา เพราะเราเรียนช้าจึงมีเพื่อนอายุน้อยกว่า พี่สาวหนิงจึงอายุไล่เลี่ยกับเรา (แต่เราแอบเซ็ง เพราะดันแก่ที่สุดอยู่ดี) นุ่ม นิ่ม หนิง หลิง ก็เลยเป็นเพื่อนกันหมดนี่แหละ แถมมีพี่มาก (มาร์ค) เพื่อนเขยฝรั่งแฟนหนิงเพิ่มมาอีกคน ทริปนี้จึงชุลมุนวุ่นวายวัวตายควายล้มด้วยการสื่อสารมากๆ เราสี่สาวคุยกันด้วยภาษากลาง พี่นุ่มกับพี่นิ่มอู้กำเมืองกับคนท้องถิ่น แล้วพวกเราก็ต้องสปีคอิงลิชปนไทยกับพี่มาก ส่วนพี่มากก็พูดไทยทองแดงผสมบริติชอิงลิช - - - งง ใน งง!!! และเราทั้งหมดนี้ก็กิน เที่ยว เล่นด้วยกัน แบบไม่ค่อยมีแพลน ใครสะดวกแบบไหนก็ไปแบบนั้น ไม่ต้องติดสอยห้อยตามกันไปทุกกิจกรรม แยกกันบ้าง รวมกันบ้าง คนเดียวบ้าง อยู่เฉยๆ บ้าง เที่ยวแบบนี้สนุกดีค่ะ



ตกเย็นเมื่อไหร่ให้ไปที่ตลาดโต้รุ่งประตูชัยค่ะ อยากกินอะไรก็ได้กิน หลิงเชื่อว่า… ‘ถ้าพุงเราใหญ่ เราก็ต้องใส่ให้เต็มที่’ กินให้พุงแตกกันไปข้าง เพราะมันน่ากินไปหมด คาวหวานมากันครบ ด้วยตัวเมืองแพร่ไม่ได้ใหญ่มาก ขนาดของตลาดจึงเล็กพอดีๆ มีของกินให้เลือกหลากหลาย ร้านส่วนใหญ่จะขายอาหารไม่ค่อยซ้ำกัน มีแค่อย่างละ 1-2 ร้าน เราก็ลองมันให้หมด วันนี้กินไม่ครบ พรุ่งนี้เราก็มากินร้านใหม่ เอาที่เราสบายใจ แล้วพอมากับเจ้าถิ่น ไปร้านไหนเขาก็รู้จักกันหมด นั่นก็ร้านป้า นี่ก็ร้านพี่ ร้านเพื่อน ร้านน้อง เหมือนได้เจอญาติไปกับเขาด้วย สนุกดี
ทุกวันเสาร์ช่วงบ่ายสามถึงสี่ทุ่มให้มุ่งไปที่ถนนคนเดินกาดกองเก่า ที่นี่จัดเป็นถนนคนเดินในดวงใจเลยค่ะ เพราะมีความเดิมๆ และน่ารักมากๆ คือไม่ค่อย tourist จ๋าแบบถนนคนเดินทั่วไป เป็นกาด (ตลาด) สำหรับคนเมือง ไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยว เป็นกาดที่คนเมืองแพร่มาเดินเล่น ซื้อของ หาอะไรอร่อยๆ กิน ไม่มีของประหลาดๆ ที่ไม่เข้าพวกวางขาย แต่จะเป็นสินค้าเมือง อาหาร เครื่องดื่ม ของกินเล่น ผักผลไม้สด กับข้าว ที่มีความพื้นถิ่นชัดเจน มีโต๊ะให้นั่งกิน มีถังขยะให้ทิ้ง ทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด บรรยากาศไม่รีบเร่ง ไม่ยัดเยียดขายของ พ่อค้าแม่ค้าและลูกค้ารู้จักกันทั้งกาด ขายไปก็ทักทายพูดคุยกันไป ส่วนหลิงนั้น...นอกจากเพื่อนที่มาด้วยกันเราก็ไม่รู้จักใคร แต่เรารู้จักกินค่ะ ไล่กินทุกสิ่งอย่างตั้งแต่หัวถนนไปจนสุดทางนั่นละค่าาาา

ในเช้าตรู่วันหนึ่ง หลิงตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ไปเก็บภาพตามเส้นทางไปน้ำตกแม่แคมหรือน้ำตกสวนเขื่อนซึ่งอยู่นอกตัวเมืองออกไปราว 20 กม. เช้าวันนั้นอากาศเย็นสบาย มีหมอกลงจางๆ และระหว่างที่กำลังขี่ลัดเลาะไปตามถนนในตัวเมืองแบบงงๆ อยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มปั่นจักรยานสวนทางมาพร้อมส่งยิ้มยิงฟันขาวให้ ไอ้เราก็นึกในใจ “อัยยะ! ผู้ชายยิ้มให้ แต่...ใครวะ?” ไม่นานหลังจากโพสต์รูปไปทางเฟซบุ๊ค ก็มีคอมเม้นท์จากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งหลิงไม่รู้จักส่วนตัว แต่เราเป็นเพื่อนกันทางเฟซฯ
“ผมเจอพี่เมื่อเช้า!!”
“นั่นไง! อุตส่าห์ดีใจ ที่แท้อีหนวดฟันขาวนั่นก็คือแกนั่นเอง - อีปาย”




ใครว่าแพร่เป็นแค่ทางผ่าน
/
ขอบคุณแม่ที่ปล่อยให้ลูกสาวออกเดินทางตามความฝัน ในขณะที่เราขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยหัวใจออกไปสู่โลกใบใหม่ เรากำลังหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยความรักและความฝัน และพร้อมเผชิญกับความตายด้วยความว่างเปล่า ความตายไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า คือการปล่อยให้ความฝันตายไปจากใจเรา
/
งานฉลองครบรอบ 3 ปีของ Mooneyes Thailand ในประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นไป โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ร่วมงานทั้งวงการมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ แต่ที่จริงแล้วนั้น Mooneyes มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 60 ปี
/
นับตั้งแต่ปี 1992 ที่ “Zero Engineering” ทำให้นักขี่ทั่วโลกได้รู้จักกับ “Zero Style” นิยามใหม่ของความแข็งแกร่งดุดันที่อยู่ภายใต้รูปลักษณ์สวยเฉียบคมแบบซามูไรช้อปเปอร์ เป็นการผสานจิตวิญญาณ และศิลปะแบบตะวันออก เข้ากับเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะของฮาร์ลีย์ เดวิดสัน ที่ไม่ใช่แค่มีเอกลักษณ์ แต่ความลิมิเต็ดของโปรดักชั่นคัสตอมไบค์สายเลือดญี่ปุ่นนี้ ยังทำให้ผู้ขับขี่เหมือนได้ครอบครองงานศิลปะแห่งเครื่องยนต์สองล้อที่สามารถนำพาพวกเขาเป็นอิสระจากทุกกฏเกณฑ์ได้ ที่ประเทศไทยในเช้าวันหนึ่งเราก็ได้พบกับส่วนหนึ่งของสหายแห่ง Zero อย่าง ลี่ - ณัฐพล ไตรณัฐี, จอม - ภาณุ พุ่มทับทิม, เคน - ศักดิ์ชัย เจียรพัชร์, อ้อ - วิโรจน์รัตน์ ปิติธนานพ และโชว์ - รัตนชาติ ถึกป่าย ที่หลงรักอารมณ์ได้ออกฟาดฟันกับลมแรงปะทะบนท้องถนนอย่างเหล่าซามูไรในสไตล์ Zero
/
Photographer : Fevvvvaa Lanakila MacNaughton Special Thanks : Elder Helmet Custom x Doghead Helmet / Apinan Pinratsuwan
/
เดินทางมาเป็นเวลาชั่วโมงนิดๆก็เข้าสู่อดีตเมืองหลวงอันเก่าแก่ของไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้เพราะที่นี่ครบเครื่องจริงๆให้ทั้งความสุขใจและสุขกายภายในทริปเดียว ใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวแบบเชิงประวัติศาสตร์ไทย เดินเล่นเที่ยวเมืองเก่าชมงานสถาปัตยกรรม ไหว้พระทำบุญ แวะคาเฟ่ขนมไทยสไตล์โมเดริ์น เราขอให้ทุกคนเพลินไปกับการเดินทางครั้งนี้ที่ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 2 วัน 1 คืนเท่านั้น ส่วนครอบครัวไหนกำลังอยากกำลังอยากจะหาที่พักผ่อน ใกล้ๆกรุงเทพมหานคร เราแนะนำพาลูกเก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปเที่ยวและทำบุญที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยากัน เพราะหลังจากที่เราได้ไปมาหลายรอบแล้ว เราก็ได้มีข้อคิดเล็กๆสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ว่าทำไมเราถึงควรพาลูกไปเที่ยวอยุธยา
/
พาไปเดินดูทุกซอกทุกมุมใน JOSH HOTEL โรงแรมที่แฝงตัวอยู่ในย่านอารีย์ และใช้การดีไซน์เป็นตัวถ่ายทอดสตอรี่สนุกๆ ให้เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าระหว่างทริปของคุณ
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )