THE MASTERPIECE | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

เป็นเหมือนกับชิ้นงานศิลปะที่แฝงไว้ด้วยอัตลักษณ์อันน่าทึ่ง ทั้งจากลวดลาย แมททีเรียล สีสัน ไร้ซึ่งการประนีประนอมทางความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยลักษณะเฉพาะตัว พิถีพิถัน สะท้อนถึงผู้หญิงที่มีตัวตนหลากหลาย คือสิ่งที่เรารู้สึกได้กับ Shone Puipia แบรนด์แฟชั่น ที่ผ่านการตกผลึกทางความคิดจากคุณโชน ปุยเปีย ลูกชายของศิลปินระดับแถวหน้าอย่าง คุณชาติชาย ปุยเปีย และคุณพินรี สัณฑ์พิทักษ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลผลิตของ Royal Academy of Fine Arts Antwerp สถาบันที่บ่มเพาะให้นักเรียนทลายกรอบความคิดอันจำกัด ไม่สนใจกระแสแฟชั่นหลัก และกล้าที่จะสร้างความแตกต่างให้กับวงการแฟชั่น เหมือนอย่างที่แบรนด์ Shone Puipia กำลังทำอยู่ ณ ตอนนี้!

รู้จักกับโลกเรื่องของแฟชั่น

น่าจะเป็นช่วง ม.ปลาย ตอนนั้นไปเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่ที่สมาคมฝรั่งเศส แล้วไปเห็นว่าเขามีคลาสเรียนทำ แพทเทิร์นกับเดรปปิ้งก็เลยไปเรียน โชนชอบการสร้างงานจากสองมิติเป็นสามมิติ คราฟท์ของการทำเสื้อผ้า แพทเทิร์น เดรปปิ้ง มันเหมือนกับการทำงานประติมากรรมอย่างหนึ่ง หรือการสร้างรูปทรงด้วยผ้า หลังจากนั้น เริ่มดูงานแฟชั่น เริ่มศึกษางานของดีไซเนอร์ต่าง ๆ มากขึ้น จนได้ไปเห็นงานของ Dries Van Noten แล้วก็ชื่น ชอบสไตล์การเล่นสีเล่นผ้าของเขา พอศึกษาเรื่อง Dries มากขึ้น ก็เลยทำให้ได้รู้จักกับ Royal Academy of Fine Arts Antwerp

หลังจากนั้นเลยตัดสินใจที่จะก้าวเข้าโลกแฟชั่นอย่างเต็มตัว

เราเติบโตมาในครอบครัวศิลปินอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาตลอด ไปงานเปิดแกลเลอรี มีสตูดิโอคุณ พ่อคุณแม่อยู่ในบ้าน เลยทำให้เราเป็นคนชอบอะไรทางด้านศิลปะด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่ได้อยากไป ทางไฟน์อาร์ตโดยตรงเหมือนพ่อแม่ พอไปค้นพบด้านแฟชั่นก็คิดว่ามันน่าจะทำให้เราสามารถสร้างสรรค์งาน หรือสื่ออะไรบางอย่างที่อยากจะสื่อสารออกไปได้
เลือกเรียนที่ Royal Academy of Fine Arts Antwerp เพราะดีไซเนอร์ที่ชอบจบการศึกษา จากที่นั่น
ใช่ครับ พอไปค้นพบงานของ Dries ก็เริ่มไปเจองานคนอื่นอย่าง Martin Margiela, Ann Demeulemeester หรือ พวก Belgian Designers ได้รู้จักโรงเรียนนี้มากขึ้น โชนรู้สึกว่าดีไซเนอร์ทุกคนที่จบมาจากที่นั่นเป็นตัวของตัว เองมาก ไม่เหมือนกับที่มาจากนิวยอร์ก หรือลอนดอน หลังจากได้ไป Visit โรงเรียนไปโอเพ่นเดย์แล้วชอบ บรรยากาศมาก เพราะมันคล้ายกับโรงเรียนอาร์ทแล้วก็ครีเอทีฟสุดฤทธิ์ไม่มีความเป็นคอมเมอร์เชียลเลย นักเรียนเขาดูอยู่รวมกลุ่มกันเป็นคอมมิวนิตี้เล็กๆ Antwerp เป็นเมืองที่น่ารัก ที่นี่น่าจะเหมาะสำหรับเป็นที่เรียน ของเรา
คุณโชนได้อะไรจากการเรียนที่นี่บ้าง
ตอนเรียนเขาไม่ได้ให้เราไปพึ่งเทรนด์ หรือต้องคอยดูเรฟเฟอเร้นท์ว่าตอนนี้อะไรกำลังเป็นแฟชั่นบ้าง เขาให้เรา หาเอกลักษณ์ของตัวเอง มันไม่ได้มีการสอนแบบชัดเจนมากว่าจะต้องทำยังไง แต่เขาจะไกด์ให้เราไปหา เอกลักษณ์ที่แท้จริงของเราในระหว่าง 4 ปีที่เรียนอยู่
พอหลังจากเรียนจบปริญญาโทก็เริ่มทำแบรนด์รองเท้า
โชนจบมาสเตอร์ดีกรีปี 2016 ตอนนั้นเริ่มทำแบรนด์ชื่อ Adult. เป็นแบรนด์รองเท้าทำกับเพื่อนเป็นคนฝรั่งเศส ที่เจอกันที่โรงเรียน เรามีรองเท้าจากคอลเลกชั่นของเราที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เลยลองเอามารวมกัน แล้วสร้างเป็นเหมือน Meaning ใหม่เป็นแบรนด์ใหม่ขึ้นมา ประกอบกับช่วงทำงานที่โรงเรียนการทำรองเท้าเป็น ส่วนสำคัญของงานออกแบบ หลังจากเรียนจบก็ไปศึกษาเรื่องการทำรองเท้าเพิ่มเติมที่ Arsutoria School ที่มิ ลานครับ
สร้างสรรค์แบรนด์ Adult ควบคู่ไปกับแบรนด์ Shone Puipia
แบรนด์ Shone Puipia คืองานที่โชนครีเอทเอง ตั้งแต่เรียนจบก็ยังทำงานของตัวเองมาเรื่อย ๆ แต่จะเรียกว่า Officially Launch จริง ๆ ก็คงเป็นปีที่แล้วที่เริ่มทำคอลเลคชั่นใหม่ แต่คอลเลคชั่นแรกทำมาตั้งแต่หลังเรียนจบ ครับ
“อยากจะทำในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง มีความเฉพาะทาง เป็นเสื้อผ้าที่พิเศษไม่เหมือนใคร โชนว่ามันเป็นอะไรที่คนน่าจะต้องการ เพราะคนทำเสื้อผ้ากันเยอะมาก โชนว่าเราควรจะหันมาทำอะไรที่แตกต่างเหมือนกับงานศิลปะครับ”
มุมมองในการสร้างสรรค์ผลงานส่วนหนึ่งมาจากการอยู่ในสภาพที่แวดล้อมไปด้วยศิลปะ
งานของคุณพ่อคุณแม่จะแตกต่างกันชัดเจน ถ้าถามว่าโชนได้ตรงไหนจากคุณแม่ น่าจะเป็นเรื่องการสร้าง ฟอร์มที่เพียว การสร้างอะไรที่ Abstract การใส่ดีเทล ส่วนคุณพ่อคงเป็นการใช้สีสันที่ตัดกันเยอะ ๆ ความ มันส์ ความสนุกสนาน ซึ่งเชื่อมโยงมาในงานของเสื้อผ้าครับ
สิ่งที่ถูกสอดแทรกอยู่ใน dawn chorus, dusk calls คอลเลคชั่นที่จัดแสดงล่าสุด
คราวนี้ไม่ได้ทำงานเป็นธีมหรือเรื่องราวมาก โชนดึงเอา Element ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาทำต่อ มันเป็น สไตล์เสื้อผ้าที่ตัวเองชอบ อยากเห็นผู้หญิงใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ หรือต้องเป็นอะไรที่ตัวเองจะอยากใส่ โชนทำงาน ในรูปแบบนั้น การตั้งชื่อของคอลเลคชั่นมาจากการไปเจอคำว่า Dawn Chorus ซึ่งหมายถึงเวลาที่นกร้องตอน พระอาทิตย์กำลังขึ้น เลยอยากเปรียบเทียบผู้หญิงเป็นฝูงนกที่มีหลากหลายรูปแบบ มีขนสีสันต่าง ๆ เหมือ นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ที่ฟู่ฟ่าสีสันเยอะ ๆ เพราะคอลเลคชั่นนี้มีวิวัฒนาการมาจากซิลูเอตที่เริ่มจากสีขาวเพียว ๆ ไปจนถึงอะไรที่เป็นลายเยอะๆ เท็กซ์เจอร์เยอะๆ มีความฟู่ฟ่า มีอารมณ์เป็น Evening มากขึ้น แล้วก็จะมี เรื่องการผ่านไปของเวลาจากช่วงเช้าที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นไปจนถึงช่วงพลบค่ำครับ
แฟชั่นดีไซเนอร์ที่ถือเป็นต้นแบบในการทำงาน
มีดีไซเนอร์ที่ชอบหลายคน ชอบเขาในเหตุผลที่ต่างๆ กัน อย่าง Dries Van Noten โชนว่าเขาทำอะไรที่เป็นตัว ของตัวเองไม่ได้คล้อยไปตามเทรนด์ เขาทำสไตล์ที่เฉพาะและรู้จักลูกค้าของตัวเองดี เขาทำเสื้อผ้าในลักษณะ นั้นมาโดยตลอด ชอบการใช้สีใช้ลายใช้ผ้าของเขา แล้วยังใส่ใจเรื่องของงานคราฟท์ เขาทำงานกับช่างฝีมือใน อินเดีย ตั้งใจว่าทุกๆ คอลเลคชั่นจะต้องป้อนงานให้กับช่างพวกนี้ เพื่อที่ช่างจะได้มีงานทำต่อไปเรื่อยๆ โชนว่า มันเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้ชอบสิ่งที่ Phoebe Philo ทำให้กับ Celine เขาทำเสื้อผ้าจริงให้ผู้หญิงใส่ แล้วมันเป็น เสื้อผ้าที่ Sophisticate เขานึกถึงผู้หญิงว่าต้องการอะไร มันเป็นความลักชัวรี่อย่างนึง ใส่แล้วดูเท่ดูดี และสิ่งที่ JW Anderson ทำให้กับ Loewe เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นผู้หญิงที่ Sophisticate ใส่ใจในเรื่องคราฟท์
ชอบเสื้อผ้าที่ Sophisticate กับงานคราฟท์
โชนเป็นคนชอบลักชัวรี่ อยากทำเสื้อผ้าลักชัวรี่ที่เราใส่ใจในดีเทลต่างๆ โชนพยายามจะหาความหมายใหม่ให้ ลักชัวรี่โดยที่ไม่ต้องดูเก่า ไม่ได้ดูเป๊ะมาก เป็นลักชัวรี่ที่ค่อนข้างฟรี หรือเป็นลักชัวรี่สมัยใหม่
กับภาพของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่เติบโตขึ้น
ตอนนี้มีแบรนด์ที่ทำงานน่าสนใจมากขึ้น เห็นจากงานจบนักศึกษาแฟชั่นก็มีความคิดสร้างสรรค์ และหลาก หลาย ดีใจที่เห็นแบรนด์ไทยเริ่มประสบความสำเร็จในต่างประเทศ อย่าง Dry Clean Only ก็เป็นแบรนด์ที่น่า สนใจในตอนนี้
ความคาดหวังกับแบรนด์ Shone Puipia
เราอยากเริ่มอะไรที่เล็กๆ ก่อน อยากสร้างงานสร้างเสื้อผ้าที่พิเศษ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เป็นแมส เรดี้ทูแวร์ มาก อยากให้สังคมไทยรู้จักแบรนด์ในลักษณะนี้ แล้วถึงค่อยๆ ขยายตัวออกไป อยากจะทำในสิ่งที่เป็นตัวของ ตัวเอง มีความเฉพาะทาง เป็นเสื้อผ้าที่พิเศษไม่เหมือนใคร โชนว่ามันเป็นอะไรที่คนน่าจะต้องการ เพราะคน ทำเสื้อผ้ากันเยอะมาก โชนว่าเราควรจะหันมาทำอะไรที่แตกต่างเหมือนกับงานศิลปะครับ
    TAG
  • fashion
  • people
  • interview
  • vdo

THE MASTERPIECE

STYLE/INTERVIEW
6 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • PEOPLE/INTERVIEW

    อุ้ม-วัลลภ รุ่งกำจัด นักแสดงภาพยนตร์อิสระ สู่เส้นทางของ Cannes Film

    วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว

    EVERYTHING TEAM2 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    พูดคุยกับ “MAMIO” บนหน้ากระจกสะท้อนตัวตนที่ถูกซ่อนมาทั้งชีวิต “อาจใช้เวลานานถึง 30 ปี แต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสได้รู้เลย”

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ

    EVERYTHING TEAM2 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    THE ROARING SOUND OF BANGKOK EVILCORE

    Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia

    EVERYTHING TEAM2 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    Nat Inksmith (ชณัฏฐ์ หวังบุญเกิด) มากกว่าความสวยงามคือการนำเสนอผลงานที่เป็นตัวตนผ่านศิลปะลายสัก

    ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน

    EVERYTHING TEAM3 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    KIKI กับการเดินทางก้าวต่อไปของความคิดสร้างสรรค์บนเส้นทางดนตรี

    ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีวงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ KIKI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ก็เพราะด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน

    EVERYTHING TEAM4 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    “แมรี่ ปานสง่า” ผู้เปรียบงานภัณฑารักษ์เป็นเสมือนงานศิลปะ ที่นำพาผู้ชมเข้าร่วมตัดสินใจถึงความงามของมัน

    คำตอบที่ถูกต้องแน่แท้ของคำถามที่ว่า “ศิลปะแบบไหนที่เรียกว่าสวย” นั้น คงยากพอ ๆ กับความพยายามในการค้นหาทฤษฎีวิทยาศาสตร์มาอธิบายว่าพระอาทิตย์สามารถขึ้นทางทิศตะวันตกได้ เพราะศิลปะที่เป็นเหมือนโลกอีกใบที่อยู่คู่ขนานไปกับโลกจริง อันประกอบสร้างจากความเชื่อ วัฒนธรรม และภูมิหลังของศิลปิน มักถูกตัดสินจากรสนิยมส่วนตัวของผู้ชมแต่ละคน บางคนสนใจแค่ความเจริญตา แต่กลับบางคนอาจมองลึกลงไปยังเบื้องลึกของมัน แล้วตัดสินจากประสบการณ์และความรู้สึก ซึ่งไม่อาจใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานตายตัวที่บ่งบอกถึงรสนิยมโดยรวมของสังคมได้ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นผลงานศิลปะชิ้นเดิม แต่คุณค่าและนิยามความสวยงามของมัน ก็อาจสามารถแปรผันไปได้ตามช่วงวัยของเราที่เปลี่ยนแปลงไป

    EVERYTHING TEAM4 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )