LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
ช่างภาพสายรถระดับอินเตอร์เนชันแนล
อาชีพ Automotive photographer กับงานระดับอินเตอร์เนชันแนล
“อาจจะเห็นมีภาพถ่ายรถที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ เพราะมันเริ่มจากเราไปทำงานเกี่ยวกับอะไหล่ที่ญี่ปุ่น แล้วพอถึงเวลาว่างๆ ช่วงวันหยุดก็จะหาโอกาสไปถ่ายรถบ้าง ตอนนั้นก็ย้ายไปอยู่โตเกียว อยากมีเพื่อนญี่ปุ่นด้วย เราเลยนัดถ่ายรถของที่นั่นแหละ พอถ่ายออกมาเซ็ตนึง คนก็เลยเริ่มรู้จักเรา ทีนี้ก็เริ่มมีกลุ่มมีก้อนมากขึ้น
ตอนนี้ถ่ายภาพให้นิตยสารที่อเมริกาด้วย นิตยสาร SUPER STREET จะเรียกว่าเป็นเบอร์หนึ่งของนิตยสารรถซิ่งของที่ประเทศอเมริกาก็ได้นะ แล้วก็จะมีบางประเทศเริ่มเสนอออกค่าตั๋วและที่พักให้เพื่อให้เราไปถ่ายโปรเจกท์เขา แต่จริงๆ ถ้าโอกาสมาถึงแล้วเราก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินเลยนะ จริงๆ เราอยากได้ประสบการณ์ชีวิตมากกว่า ประสบการณ์ชีวิตสำคัญที่สุดครับ (Q: โห ทำไมดูหล่อ) ต้องมีโหมดหล่อบ้างนะ มีโหมดอื่นมาเยอะแล้ว(ฮา)”
“สิ่งที่ยากเหรอครับ? สิ่งที่ยากคือ ยาม ผมทะเลาะกับยามบ่อยมาก(ฮา) เอาเป็นว่า หนึ่งคือเรื่องสถานที่ สองคือดินฟ้าอากาศ เพราะงานเรา Outdoor เป็นหลัก อีกปัญหานึงก็คือเรื่องรถที่ไม่พร้อม เราไม่รู้ว่ารถที่ไปถ่ายจะพังตอนไหน อาจจะสตาร์ทไม่ติดตอนที่เราไปถ่าย ก็เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ทำงานยากขึ้น หรือบางทีก็อาจจะทำต่อไม่ได้เลยครับ”
“การถ่ายภาพรถต้องใช้ “ความครีเอทีพ” เยอะเลยครับ เรื่องมุมมองภาพ การตั้งเฟรม หรือการเล่าเรื่องผ่านภาพ ก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มันออกมา มันไม่เหมือนวิดิโอที่มันเล่าเรื่องแบบเคลื่อนไหวได้ อันนี้เป็นภาพนิ่งมันเลยต้องคิดกับมันมากหน่อย
อีกเรื่องนึงคือ “ได้ภาษา” จริงๆ เราเรียนมนุษย์อิ๊ง ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องยนต์เลย แต่เราได้ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่นด้วย ทำให้คอนเน็คชั่นของเรามันค่อนข้างไปเร็ว ไปได้ไกลกว่าเดิม ทุกวันนี้ก็มีคอนเน็คชั่นหลายที่มากครับ ญี่ปุ่น อเมริกา ล่าสุดจะต้องไปฮ่องกงเพราะเขาให้ไปถ่ายรถที่นู่น ก็ตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะตระเวนไปหลายๆ ที่ที่มีกลุ่มรถต่างๆ เท่าที่จะมีปัญญานะ ในอนาคตก็คิดว่าจะมีอังกฤษด้วยครับ
จริงๆ การถ่ายภาพนี่ไม่ได้เรียนมาเลยนะ ถ้าเรียนแล้วผมอาจจะไม่ได้เรื่องเลยนะบางที(ฮา) มันเกิดจากเพราะเราชอบรถมากกว่า แล้วก็เน้นศึกษาเอง ดู Reference จากพวกต่างชาติด้วย ดูว่าเขาถ่ายได้ยังไงวะ ทำยังไงวะเนี่ย และต้องมีสกิลเรื่อง “รีทัช” ด้วยครับ การรีทัชต้องใช้เยอะเลยครับสำหรับอาชีพนี้ บางทีเราไปถ่ายมาก็รีทัชเองเลย จบงานเองมันง่ายกว่า ยกเว้นแต่ว่าเป็นงานที่ต้องทำโปสเตอร์กราฟฟิกจ๋าๆ เนี่ย ก็ยอมแพ้เถอะ ยอมจ้างคนอื่นไปเถอะ อย่าเก่งทุกอย่างเลย(ฮา)”
“ตอนนี้มี FK เป็นรถใช้งานทั่วไป แล้วก็จะมีอีกคันไว้ออกงานโชว์ คันนี้ปั้นไว้นานแล้วแต่ทำไปทำมามันขับยาก เลยเอาไว้เป็นรถสำหรับสปอนเซอร์ และทำคลิปให้กับแบรนด์เกี่ยวกับยนตรกรรมต่างๆ ครับ”
“การเป็นช่างภาพสายรถยนต์หรือรถซิ่ง จริงๆ ก็มีเยอะแล้วนะแต่ก็เรียกว่ายังน้อยกว่าสายอื่น การถ่ายรถยนต์มันก็คล้ายกับศาสตร์ของการถ่ายภาพอื่นๆ เช่นกัน พวกพรีเวดดิ้ง รับปริญญา ฯลฯ รถยนต์เจ๋งๆ ของเจ้าของบางคนก็อาจจะผ่านมือเขาแค่คนเดียว ก็เหมือนกับงานแต่งงานที่มันก็มีครั้งเดียวในชีวิตเหมือนกัน และนั่นคือมูลค่าของมันครับ”
FACEBOOK, IG, YOUTUBE Channel : streetmetal
ทำความรู้จัก STREETMETAL ช่างภาพสายรถระดับอินเตอร์เนชันแนล
/
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ
/
Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia
/
ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน
/
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีวงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ KIKI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ก็เพราะด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
/
คำตอบที่ถูกต้องแน่แท้ของคำถามที่ว่า “ศิลปะแบบไหนที่เรียกว่าสวย” นั้น คงยากพอ ๆ กับความพยายามในการค้นหาทฤษฎีวิทยาศาสตร์มาอธิบายว่าพระอาทิตย์สามารถขึ้นทางทิศตะวันตกได้ เพราะศิลปะที่เป็นเหมือนโลกอีกใบที่อยู่คู่ขนานไปกับโลกจริง อันประกอบสร้างจากความเชื่อ วัฒนธรรม และภูมิหลังของศิลปิน มักถูกตัดสินจากรสนิยมส่วนตัวของผู้ชมแต่ละคน บางคนสนใจแค่ความเจริญตา แต่กลับบางคนอาจมองลึกลงไปยังเบื้องลึกของมัน แล้วตัดสินจากประสบการณ์และความรู้สึก ซึ่งไม่อาจใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานตายตัวที่บ่งบอกถึงรสนิยมโดยรวมของสังคมได้ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นผลงานศิลปะชิ้นเดิม แต่คุณค่าและนิยามความสวยงามของมัน ก็อาจสามารถแปรผันไปได้ตามช่วงวัยของเราที่เปลี่ยนแปลงไป
/
ช่วงเวลาแค่ 5 นาทีก็เพียงพอแล้ว ที่เราจะได้ดำดิ่งเข้าสู่ห้วงความทรงจำและอารมณ์อันซับซ้อนไร้จุดสิ้นสุด ที่เกิดขึ้นจากการร้อยเรียงเรื่องราว ประสบการณ์ทางดนตรี บนเส้นทางชีวิตและมิตรภาพของพวกเขา “VAXMENN” (ที่มาจากการผวนคำว่า MAXVENN) ซึ่งเป็นการรวมตัวเพื่อทำงานดนตรีด้วยกันครั้งแรกของกลุ่มเพื่อนที่พบเจอและร่วมวงเฮฮาปาร์ตี้กันมานานหลายปี อย่าง แม็กซ์ - ณัฐวุฒิ เจนมานะ กับ VENN วงดนตรีสายอัลเทอร์เนทีฟโฟล์กที่ประกอบด้วย ว่าน - ปรีติ์ อัศวรักษ์, แอป - จิรกิตติ์ ท้าวติ, ปน - นริศ สโรบล และ ต๊อบ - ธัชพล ชีวะปริยางบูรณ์
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )