SEIKO x AnOfficerDies | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

Coming from cracking of door’s color, then 'Time' turns them to 'Characters' that will make you smile. MillionsMonster
ไม่ว่าจะทำอะไร ความตั้งใจก็ยังเป็นสูตรสำเร็จที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายนั้น โดยมี “เวลา” เป็นเครื่องช่วยพิสูจน์ถึงความพยายาม และ “การได้รับโอกาส” คือ ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเจอคำพูดหรือคำสบประมาทใด ก็ไม่เคยทำลายความตั้งใจของผู้ชายคนนี้ได้เลย กอล์ฟ - ฐิติภูมิ เพ็ชรสังข์ฆาต สตรีทอาร์ตทิสต์ เจ้าของผลงาน “Millions Monster” by AnOfficerDies
AnOfficerDies Begins
การเดินทางสาย “สตรีทอาร์ต” ของผมเริ่มจากจินตนาการ เรื่องมีอยู่ว่า วันนึงผมออกมาที่หน้าบ้านแล้วเห็นรอยกะเทาะของสีที่อยู่บนประตู มันดูคล้ายตัวสัตว์ประหลาด ผมก็เลยหยิบปากกาขึ้นมาวาดตาวาดปากลงไป หน้าตามันกวนๆ ดี จากนั้นผมก็เริ่มวาดคาแรคเตอร์ตัวสัตว์ประหลาดนี้ แต่จะว่าตัวเดียวก็รู้สึกว่าน้อยไปเลยวาดเพื่อนๆ ขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วน จนได้เป็นคาแรคเตอร์ชุดที่ใช้ชื่อว่า “Millions Monster” หรือสัตว์ประหลาดล้านตัว ซึ่งก็จะมีหัวหน้าแก๊งตัวสีน้ำเงินชื่อ Mr. Martin ที่คอยนำทัพส่งสารไปทุกหนแห่งมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว
จากวันที่ผมเห็นรอยกะเทาะของสีบนประตูวันนั้น วันนี้ผมได้รับโอกาสมากมายจากมัน โอกาสในสายงานด้านสตรีทอาร์ตมันช่วยให้ผมได้พัฒนาทักษะตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะการที่ได้รับโจทย์ใหม่ๆ ก็เหมือนเป็นการ Challenge ตัวเองอีกอย่างนึง ก่อนหน้านี้ผมจะวาดรูปในกระดาษไม่ก็ในคอมพ์ แต่วันที่ผมได้ออกไปลองวาดบนกำแพง ผมรู้สึกว่ามันเหมือนโลกใหม่ของผมเลยนะ พอได้ทำงานในที่สาธารณะ คนก็เริ่มเห็นงานเรามากขึ้น ได้รู้จักงานเรามากขึ้น จากนั้นโอกาสก็เริ่มเข้ามา ซึ่งผมไม่เคยปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นเลย ทุกงานที่รับมาผมทำด้วยใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่สิ เกินร้อยด้วยซ้ำ เพราะผมรู้สึกว่า การจะได้รับโอกาสแต่ละครั้งมันเป็นเรื่องยากนะ เมื่อได้มาผมจึงต้องทำมันอย่างเต็มความสามารถ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าการทำงานศิลปะแบบนี้มันจะเลี้ยงชีพได้ไหม ส่วนตัวผมเองผมไม่ได้ทำงานศิลปะเพื่อเลี้ยงชีพ ผมทำเพราะผมชอบ และสิ่งที่ผมได้รับจากการทำสิ่งที่ชอบมันมีค่ามากกว่า ค่าจ้าง นะ ผมจึงมองว่าการได้รับโอกาสคือ ความสำเร็จในการทำงานด้านนี้
แต่การเดินทางของทุกสายอาชีพย่อมมีอุปสรรค หลายครั้งก็มีสะดุดนะครับ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผมเจอมาก็คือ มีพี่ที่ผมเคารพรักอยู่ท่านหนึ่งมาบอกผมว่า “เฮ้ย…คาแรคเตอร์ที่นายทำอยู่มันไปคล้ายกับศิลปินคนอื่นหรือเปล่าวะ?” มันทำให้ผมกลับมาย้อนคิดว่า “เอ๊ะ…แต่เราทำสิ่งนี้จากความสุขที่เราทำขึ้นมาเองนะ” ก็เลยตัดสินใจว่า เราจะไม่ยอมแพ้กับพูดใดๆ และจะต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า คาแรคเตอร์ตัวนี้มันเป็นออลิจินัลที่เกิดจากเราจริงๆ ผมก็เลยลงมือวาดมันทุกวัน และโพสต์ลงโซเชียลมีเดียทุกวัน ซึ่งเคยมีคนบอกกับผมว่า “ถ้าคุณทำอะไรก็ตามแต่ 10,000 ชั่วโมงขึ้นไป สิ่งนั้นจะเป็นของคุณ” ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อผมวาดไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสกิลติดตัว และวันที่ผมรอก็มาถึง เมื่อพี่คนนั้นมาบอกกับผมว่า “งานนี้มันเป็นออริจินัลของนายแล้ว” ความรู้สึกผมตอนนั้นผมโคตรจะดีใจเลย เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง และอีกมุมจากแฟนผมเอง ซึ่งเขาเคยบอกกับผมว่า “พี่ซื้อสี ซื้ออุปกรณ์ไปพ่นไปเพ้นท์บนถนนมันมีแต่เสียเงิน มันไม่เห็นจะได้อะไรเลย แฟนผมเขามองว่าการทำอะไรแบบนี้มันไม่มีรายได้ แค่ทำงานศิลปะบนถนน จนมาวันนี้ที่ “Millions Monster” สามารถทำรายได้ให้พวกเรา แฟนผมเองก็ได้เห็นแล้วว่ามันสร้างรายได้ได้นะและเขาก็ยอมรับในที่สุด ซึ่งผมก็ดีใจมากที่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนใกล้ตัวเราด้วยงานที่เรารัก
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นอุปสรรคของผม เรียกว่า เคยเป็นอุปสรรคจะดีกว่า นั่นก็คือ กลัวใจตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้เท่าที่ลูกค้าคาดหวัง หรือคนที่ให้โอกาสเขาต้องการ ผมเคยกลัวความคาดหวังเอามากๆ มันทำให้ผมคิดมากและกังวล แต่พอไปถึงหน้างานจริงๆ มันก็มีแค่ผมกับผนัง มันทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าผมทำไม่ได้แล้วใครจะทำได้วะ? แล้วถ้าเราไม่เก่งกับงานตัวเอง ใครจะเก่งกับงานเรา? ตั้งแต่นั้นความกลัวมันก็หายไปเลย พอเรามีประสบการณ์แล้วอุปสรรคก็จะค่อยๆ หายไป จนทุกวันนี้พอผมไปถึงหน้างานผมก็ทำเต็มที่แบบไร้ความกังวล
Street Lifestyle
ผมเป็นคนชอบทำกิจกรรมเยอะ ก่อนหน้านี้จะคลั่งการปั่นจักรยาน Fixed Gear มาก ตอนนี้ก็บ้าการเตะฟุตบอล มันเหมือนได้ปลดปล่อยพลังและหลั่งสารความสุขควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากอะไรมาก็ตามเวลาได้มาลงสนามฟุตบอลแล้วมันหายเป็นปลิดทิ้ง และสิ่งที่ชอบมากๆ ในตอนนี้ก็คือ การขี่มอเตอร์ไซค์ครับ ผมมีมอเตอร์ไซค์อยู่ 2 คัน ก็จะชอบขี่ไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ ผมรู้สึกว่าการที่ได้อยู่บนมอเตอร์ไซค์มันช่วยให้ผมมีสติและสมาธิมากขึ้นนะ อีกอย่างเลยคือ มันเอ็กซ์ตรีมดีครับ เพราะต้องอยู่บนความเร็วและเราต้องควบคุมมันให้ได้

ส่วนเรื่องสไตล์การแต่งตัวของผมก็ขึ้นอยู่กับวาระโอกาส อย่างออกไปทำงานก็แต่งตัวแบบนึง วันที่ต้องไปพรีเซนต์งานลูกค้าก็อีกแบบนึง วันไหนสบายๆ ออกไปเที่ยวก็แต่งตัวสตรีทแวร์แบรนด์ที่ชอบ เลือกใส่สนีกเกอร์ที่เข้ากับชุดหน่อย ซึ่งผมมองว่าการแต่งตัวของผู้ชายมันสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ อย่างแว่นตากันแดดก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะบางทีทำงานดึก พอตื่นมาอีกวันตาก็จะสู้แสงไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ นาฬิกา ผมจะเลือกนาฬิกาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการแต่งตัวแต่ละวัน อย่างนาฬิกาที่ผมใส่ตอนนี้ก็จะเป็น SEIKO “Prospex Street” Series ครับ ชอบตรงผิวสัมผัสของสายนาฬิกาที่มีความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะกำลังวาดรูป ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือพ่นกำแพง ผมรู้สึกว่ามันเหมาะกับการทำงานสตรีทอาร์ตของผม และด้วยรูปลักษณ์ของหน้าปัดที่มีความเรียบหรู ก็ทำให้สามารถใส่ในโอกาสที่เป็นทางการอื่นๆ ได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ก็อยากฝากถึงคนที่สนใจงานด้านสตรีทอาร์ตผ่านสิ่งที่ผมเจอมาว่า กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านหลายช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นที่จะต้องสู้กับความพยายามของตัวเอง ช่วงเวลาที่ลงมือทำไปแล้ว ก็ต้องทนรับกับคอมเมนต์ การมองเห็น การชอบ การไม่ชอบ ถ้าเราอยากไปต่อในสายงานที่เรารักเราก็ต้องพัฒนา แล้วในการพัฒนานั้นคุณก็ต้องใช้ความคลั่งไคล้กับมัน ฝึกฝนทักษะตัวเองอยู่เสมอ ให้เวลากับมัน และทุ่มเทกับการใช้เทคนิคใหม่ๆ กับงานของตัวเอง เพราะการได้ออกไปทำงานสตรีทอาร์ตนั้น ก็มักจะเจอสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เราก็ควรเอาสิ่งที่เราไปเจอมาใส่ลงในงานของเรา แล้วมันจะไม่น่าเบื่อ และเสน่ห์อีกอย่างของการทำงานสตรีทอาร์ตก็คือ “ช่วงเวลาระหว่างการทำงาน ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่า และทรงพลังมากกว่าตอนงานเสร็จแล้วซะอีก”
Facebook : Seiko Club
Instagram : Seiko_Thailand
Line @Seiko_Thailand
โทร : 02-255-1245 ต่อ 888
    TAG
  • design
  • graffiti
  • lifestyle
  • fashion
  • vdo

SEIKO x AnOfficerDies

GRAPHIC/EXHIBITION
6 years ago
CONTRIBUTORS
By SEIKO
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • DESIGN/EXHIBITION

    Re/Place การปิดทับอดีตเพื่อเปิดเผยความจริงทางการเมือง ของ วิทวัส ทองเขียว

    ในอดีตที่ผ่านมา ในแวดวงศิลปะ(กระแสหลัก)ในบ้านเรา มักมีคํากล่าวว่า ศิลปะไม่ควรข้องแวะกับ การเมือง หากแต่ควรเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความงาม สุนทรียะ และจิตวิญญาณภายในอัน ลึกซึ้งมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน ศิลปะไม่เคยแยกขาดออกจาก การเมืองได้เลย ไม่ว่าจะในยุคโบราณ ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือรับใช้ชนชั้นสูงและผู้มีอํานาจ หรือใน ยุคสมัยใหม่ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงออกถึงอุดมการณ์ทางสังคมการเมือง หันมามองในบ้าน เราเอง ก็มีศิลปินไทยหลายคนก็ทํางานศิลปะทางการเมืองอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในการสะท้อนและ บันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้อย่างเข้มข้น จริงจัง

    Panu BoonpipattanapongFebruary 2025
  • DESIGN/EXHIBITION

    The Grandmaster : After Tang Chang บทสนทนากับ จ่าง แซ่ตั้ง ศิลปินระดับปรมาจารย์แห่งศิลปะสมัยใหม่ไทย โดย วิชิต นงนวล

    เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เรารู้ว่า การก๊อปปี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ทําให้ เราได้รู้ว่าผลงานต้นฉบับของจริงในช่วงเวลาที่เสร็จสมบูรณ์นั้นมีความดีงามขนาดไหน ไม่ต่างอะไรกับศิลปินร่วมสมัยสัญชาติไทยอย่าง วิชิต นงนวล ที่หลงใหลศรัทธาในผลงานของศิลปิน ระดับปรมาจารย์ในยุคสมัยใหม่ของไทยอย่าง จ่าง แซ่ตั้ง ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ ในวัยของนักเรียน นักศึกษา เรื่อยมาจนเติบโตเป็นศิลปินอาชีพ ความหลงใหลศรัทธาที่ว่าก็ยังไม่จางหาย หากแต่เพิ่มพูน ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็สุกงอมออกดอกผลเป็นผลงานศิลปะในนิทรรศการ The Grandmaster : After Tang Chang ที่เป็นเสมือนหนึ่งการสร้างบทสนทนากับศิลปินระดับปรมาจารย์ผู้นี้

    Panu BoonpipattanapongJanuary 2025
  • DESIGN/EXHIBITION

    Monte Cy-Press ศิลปะจากกองดินที่สะท้อนน้ําหนักของภัยพิบัติ โดย อุบัติสัตย์

    “ยูบาซาโตะ เดินผ่านตามแนวต้นสนขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อไปก่อสร้างสถูปดิน และมักจะโดน ทีมงานช่างบ่นทุกวันเกี่ยวกับการก่อสร้าง ที่มีเวลาอยู่อย่างจํากัด เขาเพียงได้แต่ตอบไปว่า .. บุญกุศล นําพาและเวลามีเท่านี้ ขอให้ทําสิ่งดีๆ ให้เต็มที่ ต่อสถานที่บนภูเขานี้เถอะ อย่าบ่นไปเลย เราอาจจะ พบกันแค่ประเดี๋ยวเดียว แต่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อไปอีกหลายร้อยปี ... ทีมงานทุกคนเพียงส่งรอยยิ้มที่ เหนื่อยล้ากลับมา ก็เพราะต้องทนร้อนทนแดด และเปียกฝนสลับกันไป จากสภาวะโลกเดือด ที่ทุกคน ต่างพูดถึง แต่ก็จะมาจากใคร ก็จากเราเองกันทั้งนั้น ... แม้จะมาทํางานบนภูเขาก็จริง แต่เขาก็ยังคง คิดถึงเหตุการณ์ภัยน้ําท่วมดินโคลนถล่มที่ผ่านมา อีกทั้งความเสียหายต่อข้าวของที่ต้องย้ายออกจาก บ้านเช่าและค่าใช้จ่ายหลังน้ําท่วมที่ค่อนข้างเยอะพอควร และยิ่งในสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจแบบนี้...

    Panu Boonpipattanapong3 months ago
  • DESIGN/EXHIBITION

    Kader Attia กับศิลปะแห่งการเยียวยาซ่อมแซมที่ทิ้งร่องรอยบาดแผลแห่งการมีชีวิต ในนิทรรศการ Urgency of Existence

    หากเราเปรียบสงคราม และอาชญากรรมที่กระทำต่อมนุษย์ อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสังหารหมู่ และการล่าอาณานิคม เป็นเหมือนการสร้างบาดแผลและความแตกร้าวต่อมวลมนุษยชาติ ศิลปะก็เป็นหนทางหนึ่งในการเยียวยาซ่อมแซมบาดแผลและความแตกร้าวเหล่านั้น แต่การเยียวยาซ่อมแซมก็ไม่จำเป็นต้องลบเลือนบาดแผลและความแตกร้าวให้สูญหายไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น หากแต่การเหลือร่องรอยแผลเป็นและรอยแตกร้าวที่ถูกประสาน ก็เป็นเสมือนเครื่องรำลึกย้ำเตือนว่า สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นอีกซ้ำเป็นครั้งที่สอง เช่นเดียวกับสิ่งที่ปรากฏในนิทรรศการ “Urgency of Existence” นิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งแรกในเอเชียของ คาแดร์ อัทเทีย (Kader Attia) ศิลปินชาวฝรั่งเศส - แอลจีเรีย ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เขาเป็นหัวหอกในการทำงานศิลปะผ่านสื่ออันแตกต่างหลากหลาย ที่นำเสนอแนวคิดหลังอาณานิคม และการปลดแอกอาณานิคม จากมุมมองของตัวเขาเอง ที่มีประสบการณ์ทางตรงและทางอ้อมของผู้ที่เคยถูกกดขี่และถูกกระทำจากลัทธิล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ผ่านมา

    Panu Boonpipattanapong3 months ago
  • DESIGN/EXHIBITION

    Roma Talismano ชำแหละมายาคติแห่งชาติมหาอำนาจด้วยผลงานศิลปะสุดแซบตลาดแตก ของ Guerreiro do Divino Amor

    ในช่วงปลายปี 2024 นี้ มีข่าวดีสำหรับแฟนๆ ศิลปะชาวไทย ที่จะได้มีโอกาสชมผลงานศิลปะร่วมสมัยของเหล่าบรรดาศิลปินทั้งในประเทศและระดับสากล ยกขบวนมาจัดแสดงผลงานกันในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยในเทศกาลศิลปะครั้งนี้นำเสนอผลงานศิลปะจาก 76 ศิลปิน 39 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ภายใต้ธีมหลัก “รักษา กายา (Nurture Gaia)” ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทพี ไกอา (Gaia) ในตำนานเทพปรณัมกรีก หรือพระแม่ธรณีผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันสอดประสานกลมกลืนกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

    EVERYTHING TEAM4 months ago
  • DESIGN/EXHIBITION

    Apichatpong Weerasethakul : Lights and Shadows นิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ใน Centre Pompidou ของศิลปินผู้สร้างแสงสว่างในความมืด อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

    เมื่อพูดถึงชื่อ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ เจ้ย มิตรรักแฟนหนังหลายคนน่าจะรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยผู้เปี่ยมไปด้วยความเป็นศิลปะที่สุด ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่หมายรวมถึงในสากลโลก ยืนยันด้วยรางวัลสำคัญจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกหลายต่อหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็นรางวัลยอดเยี่ยมในการฉายสายรอง (Un Certain Regard) จากภาพยนตร์เรื่อง สุดเสน่หา (Blissfully Yours) (2002) และรางวัลขวัญใจคณะกรรมการ (Jury Prize) จากภาพยนตร์เรื่อง สัตว์ประหลาด! (Tropical Malady) (2004) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ในปี 2002 และ 2004, หรือภาพยนตร์เรื่อง แสงศตวรรษ (Syndromes and a Century) (2006) ของเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลสิงโตทองคำในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส ในปี 2006 และคว้ารางวัลกรังปรีซ์จากเทศกาลภาพยนตร์ Deauville Asian Film Festival ในปี 2007, และภาพยนตร์เรื่อง รักที่ขอนแก่น (Cemetery of Splendor) (2015) ของเขาก็คว้ารางวัลยอดเยี่ยมจากเวที Asia Pacific Screen Awards ในปี 2015, ที่สำคัญที่สุด อภิชาติพงศ์ยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปาล์มทองคำ (Palm d’or) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 63 ในปี 2010 จากภาพยนตร์เรื่อง ลุงบุญมีระลึกชาติ (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) (2010), และล่าสุด ภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Memoria (2021) ยังคว้ารางวัล Jury Prize ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 74 ในปี 2021 มาครองได้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้รับเสียงวิจารณ์เชิงบวกอย่างท่วมท้นจากสื่อมวลชนนานาชาติ

    Panu Boonpipattanapong5 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )