จากการร่วมมือกันระหว่างผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง Night Life และ Production มาอย่างยาวนานทั้งในประเทศและต่างประเทศ พวกเขาทั้งหมดคือ Marmosets ดีเจและโปรดิวเซอร์ผู้อยู่ในแวดวงดีเจมาหลายปี, Koichi Shimizu อดีตผู้บริหารแห่ง SO::ON Dry Flower, PSRWP หรือเพชร Duck Unit เสริมทัพด้วย WINKIEB บรรณาธิการของ Tempo BKK ที่หลงใหลในดนตรีอันเดอร์กราวน์, อู๋ DJ Sweed ผู้ได้รับอิทธิพลจาก Deep House, Down Tempo ที่เขาชื่นชอบ และ 2626 สองดีเจที่ไม่เปิดเผยตัวตนโดยการใส่หน้ากากพร้อมกับเล่น Live Modular Synth ของพวกเขา

  วันนี้ EVERYTHING ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ปอนด์ - กฤษฎา วดีศิริศักดิ์ ที่เราคุ้นกันในนาม Marmosets อีกชื่อของเขาที่มาพร้อมกับ side-project ล่าสุดนี้ ก่อนที่งานจะเริ่ม ทุกคนดูง่วนกับการเซ็ทระบบต่างๆ ให้พร้อมก่อนสามทุ่ม รวมทั้งปอนด์เองที่เพิ่งได้นั่งพักหลังจากเตรียมตัวกันมาตั้งแต่บ่ายแก่ๆ

  เมื่อประมาณปี 2018 ดนตรีแนว Experimental เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เมื่อไปผสมผสานกับ Techno Music หนักๆ นั่นเป็นการได้จุดประกาย ให้ปอนด์เกิดไอเดียอยากจัดงานที่เป็นดนตรีแนวนี้ในกรุงเทพบ้าง ซึ่งเขาไม่ได้จำกัดว่ามันจะมีแต่แค่ดนตรีแนว Techno แต่สำหรับโปรเจ็กท์นี้มันคืออะไรก็ได้ที่อยู่ในพื้นฐานของดนตรีที่พวกเขาชอบ และสามารถสะกดคนให้อยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง ดังนั้นความเป็น Raze จะมีแทบทุกอย่างอยู่ในตัวเองตั้งแต่งาน Techno, House ,Jungle ,Noise , Breaks ,Trip-Hop ไปจนถึง Metal.

  หลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ในปี 1989 เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทิ้งร่องรอยของอาคารที่ถูกทอดทิ้งและรูปแบบใหม่ของวัฒนธรรมดนตรีอิเล็กทรอนิก วัฒนธรรมเทคโนยังคงซึมซับไปกับกลุ่มต่างๆเช่น Berghain ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อเทคโนวิหาร ดังนั้นดนตรีแนว Underground ที่ อาจกล่าวได้คือ ดนตรีแนวนี้กลายเป็นที่นิยมมากๆ ในประเทศเยอรมันนีและขยายตัวออกเป็นวงกว้างในเมืองใหญ่ใกล้เคียงอย่าง อัมสเตอร์ดัม หรือ ปารีส โดยเฉพาะศูนย์กลางและจุดหมายปลายทางของนักปาร์ตี้ทั่วโลกอย่างเบอร์ลิน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปอนด์สนใจและเริ่มศึกษาดนตรีแนวนี้มากขึ้น

  นั่นคือคำเชิญชวนของปอนด์ด้วยความรู้สึกที่ว่างานแบบนี้ ยังไม่ค่อยมีคนจัดในไทย ปาร์ตี้ของดนตรีที่มีความหนักแน่น และมีความ Futuristic ทันสมัยอยู่ในตัว

  “พี่โคอิชิแกก็สนใจ แล้วก็ช่วยกันคิดชื่อขึ้นมา จนเป็น Raze ซึ่งมีคำต่อท้ายว่า Heavy Electronics Experience เพื่อขยายความหมายให้คนเข้าใจก่อน ถึงแนวทางของดนตรีในแบบเรา มันก็เลยกลายเป็นเหมือนปาร์ตี้อันนึง ที่เริ่มต้นจัดกับพี่โคอิชิ แล้วก็มีเพชร Duck Unit ตอนนั้นเพชรก็เพิ่งเล่นโมดูลาร์เขาก็ชอบ เพชรก็เลยมาช่วยเรื่อง art direction และ lighting ซึ่งเขาถนัดด้านนี้อยู่แล้ว ส่วนพี่โคอิชิ ก็จะดูแลเรื่องซาวด์ทั้งหมด ช่วยกันคิวเรตศิลปินต่างๆ ที่จะมาเล่นที่ Raze ที่ผ่านมาก็มีหลายคนนะจากญี่ปุ่น เกาหลี เบอร์ลินหรือดีเจจากอังกฤษก็มี เดี๋ยวเดือนหน้าก็น่าจะมีมาอีกคน ยังไม่คอนเฟิร์มครับ” 1 ปีที่ผ่านมา Raze ก็เริ่มมีแฟนๆ ของปาร์ตี้มากขึ้น แถมยังเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบดนตรีหนักๆ หรือแม้กระทั่งสายร็อก หรือเมทัลก็สามารถเข้าถึงความเป็น Raze ได้ ไม่นับเรื่อง การกลับมาของ Industrial และแฟชั่นของพังก์ ที่สามารถหลอมรวมดนตรีได้อย่างน่าทึ่ง เป็นการทำลายกำแพงที่มีของคนที่ไม่เคยรู้จักคำนิยามของ Raze มาก่อน ให้ได้มาเจอกันที่งานนี้

"จุดประสงค์จริงๆ ของเราก็แค่อยากให้เมืองไทยมันมีพื้นที่ให้ซีนนี้บ้าง”
  “แล้วเราก็เปิดนะ พยายามชวนน้องที่เล่นแนวที่ใกล้เคียง หรือมีใครที่น่าสนใจเราก็จะไปจีบๆ แล้วก็ถามด้วยว่าลองเล่นแบบหนักขึ้นอีกนิดนึงได้มั้ย (หัวเราะ) อย่างอู๋นี่ก็ไปเบอร์ลินด้วยกันตลอด”
การเปลี่ยนแปลง ความคาดหวังของซีนดนตรีแนวนี้ ที่ปอนด์ออกตัวว่าไม่พูดถึงในแง่ของ Business เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่ Raze เป็นคือความนิช (Niche) แต่เรื่องที่ทุกคนในทีม Raze คาดหวังก็คือซีนดนตรีที่เปิดกว้างมากขึ้น ให้คนที่ชอบดนตรีคล้ายๆ กันมาเจอกันและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านดนตรี Techno

  “มีอยู่งานนึงชาวร็อกมาเต็มงานเลย เหมือนตอนนี้คงฟังแนวร็อกก็ไม่รู้จะไปทางไหน แล้วแฟชั่นแบบพังก์ก็กลับมา อย่างแบรนด์ Takara Wong ของแชมป์ ซึ่งแชมป์มางานเรา แล้วเขาชอบ แล้วก็ช่วยแชร์ เลยกลายเป็นว่าดนตรี Industrial หนักๆ มันเลยไปด้วยกันได้กับเรื่องของแฟชั่นด้วยมั้งครับผมว่า”

  “ตอนนี้กลายเป็นว่าสายพังก์ก็มา สายอิเล็กทรอนิกก็มา ด้วยความที่มีจุดเชื่อมโยงบางอย่างที่สามารถ connect กันได้ เหมือนฟังเพลงร็อกแหละ มันๆ สาดๆ แล้วก็จะมีสายคนชอบดนตรีทดลองก็มาเริ่มฟัง เริ่มทำความรู้จักกับดนตรีในแบบของเรา”

  ดนตรีที่หนักแน่น ดุดันคือจุดเด่นที่ทำให้หลายคนสนุกไปกับความหนักหน่วงของวิชวล แสงไฟ ควัน และทุกจังหวะที่เราได้ยิน เมษายนปีหน้า ปอนด์บอกว่าเขามีแพลนไปเล่นที่เบอร์ลินอีกเหมือนเดิม นั่นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด ด้วยอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไปสำหรับพวกเขา การเดินหน้าสร้างความระอุให้กับซีนดนตรีนี้ทั้งในไทยและแต่ละจุดหมายปลายทางที่พวกเขากำลังออกเดินทางไป เราเชื่อว่าการก้าวเข้าสู่ปีที่สองของพวกเขาจะดุเดือดกว่าเดิมแน่นอน