สุนทรียภาพแห่งการพักผ่อนริมน้ำปิงที่อิงวิถีศิลป์แห่งล้านนา กับโรงแรมร่วมสมัย “รายา เฮอริเทจ เชียงใหม่”
ยุคสมัยทำให้สภาพบ้านเรือนและการใช้ชีวิตของผู้คนสองฝั่งแม่น้ำปิงเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับโรงแรม Raya Heritage Hotel (รายา เฮอริเทจ) สถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นใหม่ริมน้ำแห่งนี้ แต่ด้วยบรรยากาศและองค์ประกอบหลายอย่าง ทำให้เรามองดูภาพเส้นโค้งของแม่น้ำที่ไหลหล่อเลี้ยงชุมชนริมน้ำมาช้านานนั้น มีประกายสะท้อนของเสน่ห์แห่งศิลปะวัฒนธรรมล้านนาและภูมิปัญญาพื้นถิ่น ที่โรงแรมแห่งนี้ร่วมสืบทอดไว้
รายา เฮอริเทจ ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนอันสงบร่มรื่นริมน้ำในอำเภอแม่ริม และถูกขนานว่าเป็นโรงแรมวิถีพื้นเมืองเหนือแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งคงจะจริงดั่งว่า เพราะตั้งแต่ด้านหน้าโรงแรมเราก็ได้เห็นเทคนิคการปูอิฐเรียงซ้อนกันบนหลังคาแบบดั้งเดิมเหมือนสถาปัตยกรรมล้านนาเก่าแก่หลายแห่ง (เช่น วัดต้นเกว๋น หรือวัดอินทราวาส) ล็อบบี้ของที่นี่ถูกเรียกว่า “ต้นห้อง” ที่มีต้นสะเดาและต้นกระท้อนชูต้นแผ่กิ่งก้านสูงใหญ่สร้างร่มเงาอยู่กลางพื้นที่ โดยมีโต๊ะน้ำคอยสะท้อนแสงเงาจากธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งในอีกแง่หนึ่งสื่อความหมายถึงการสะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำของคนล้านนาตามแนวคิดของโรงแรมด้วย
ความเป็นธรรมชาติ วิถีชีิวิตล้านนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น และศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน จึงเป็นคีย์สำคัญที่เราจะได้สัมผัสอยู่ในทุกองค์ประกอบของรายา เฮริเทจ เริ่มตั้งแต่ภาพใหญ่ของงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยสถาปนิก บุญเลิศ เหมวิจิตรพันธ์ ในรูปแบบอาคารสูงโปร่งโทนสีขาว ร่วมสมัย แต่ไม่ท้ิงกลิ่นอายของความเป็นล้านนา ด้วยการใช้วัสดุดั้งเดิมอย่าง กระเบื้องดินเผา ระแนงและเสาไม้โบราณ และฉากกระดาษสาในการก่อสร้างด้วย
โรงแรมแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 33 ห้อง จากการจัดวางตัวอาคารให้หันหน้าเข้าแม่น้ำ ทำให้ทุกห้องสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำที่ทอดยาว และพื้นที่สีเขียวได้อย่างสบายตา ส่วนสไตล์ห้องพักจะแตกต่างกันในแต่ละชั้น เริ่มจากห้องพัก Kraam Pool Suites บริเวณชั้น 1 ที่มาในโทนสีขาว-คราม พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องพัก Rin Terrace Suites ชั้น 2 คุมโทนสีขาว ครีม และดำ ส่วนชั้น 3 Huen Bon Suites (เฮือนบนสวีท) ห้องพักในโทนอ่อนโยนเฉดขาว ครีม น้ำตาล กับเอกลักษณ์เพดานสูงทรงจั่วเหมือนหลังคาบ้านไทยสมัยก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับชืื่อที่มีความว่า เรือนชั้นบน นั่นเอง เราเห็นสาดแหย่ง ที่เป็นเสื่อสานจากต้นแหย่งถูกประยุกต์เป็นที่คลุมม้านั่ง และตาแหลว เครื่องจักสานของชาวล้านนาที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์บ่งบอกถึงเขตแดน ถูกดัดแปลงเป็นป้ายแขวนหน้าห้องได้อย่างกลมกลืน ความพิเศษของห้องพักนี้อีกอย่างคือมีระเบียงชานที่สามารถมองเห็นวิวของโค้งน้ำปิงได้อย่างชัดเจน
ห้องพัก Kraam Pool Suites บริเวณชั้น 1
ห้องพัก Rin Terrace Suites บริเวณชั้น 2
ห้องพัก Huen Bon Suites (เฮือนบนสวีท) บริเวณชั้น 3 มาทางฝั่งของห้องอาหารและสปาก็มีสไตล์การตกแต่งที่คุมโทนสีเฉพาะของตัวเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลยังอยู่ในธีมโทนสีหลักของโรงแรมที่ประกอบด้วย ขาว ครีม น้ำตาล คราม และดำ เริ่มต้นด้วยห้องอาหาร Khu Khao (คุข้าว) ที่โดดเด่นในโทนสีน้ำตาลธรรมชาติ และการใช้วัสดุธรรมชาติมาเป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง เช่น “คุ” หรือเครื่องจักสานที่ใช้เป็นอุปกรณ์รองรับการนวดหรือฟาดข้าวของชาวนาภาคเหนือก็ถูกนำมาประยุกต์เป็นของตกแต่งสุดเตะตาภายในห้องอาหารนี้ด้วย ส่วนเมนูอาหารเป็นการนำตำรับและกรรมวิธีปรุงอาหารแบบล้านนาโบราณ (ที่หมายรวมถึงทั้งอาหารเหนือของไทย และพม่า ลาว จีนยูนนานด้วย) มาดัดแปลงผสมผสานสู่เมนูใหม่ที่น่าลิ้มลองมาก
ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนของ Baan Ta Lounge & Lawn (บ้านท่า) ที่ให้บริการค็อกเทลและเครื่องดื่ม ในบรรยากาศเลานจ์เรียบหรูโทนดำขรึม ซึ่งเป็นสีมะเกลือธรรมชาติ ร่วมกับการใช้วัสดุธรรมชาติ อย่างหวาย งานไม้ไผ่ และงานผ้าที่เป็นงานหัตถกรรมของชาวไทยภูเขา
ขึ้นมาชั้นสอง จะพบกับโซนที่โดดเด่นด้วยงานโคมไฟที่ประยุกต์มาจากถังใบเมี่ยง หรือถังหมักใบชา สมกับชื่อ Laan Cha Tea Terrace (ลานชา) เป็นมุมพักผ่อนเหมาะกับการจิบน้ำชายามบ่าย หรือลิ้มลองเมนูเบาๆ เพื่อสุขภาพ (Light Menu) ในโทนตกแต่งสีขาว-คราม ซึ่งงานผ้าสีน้ำเงินที่นำมาตกแต่งในโซนนี้ รวมถึงส่วนอื่นๆ ของโรงแรมด้วยนั้นล้วนมาจากกรรมวิธีย้อมครามธรรมชาติ
ถัดไปเป็นห้อง Ai Wann Spa (ไอว่านสปา) ที่เพียงเดินผ่านก็จะได้กลิ่นหอมไอสมุนไพรอบอวลมา เป็นส่วนของสปาที่ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายกับการได้บำบัดสุขภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งทางโรงแรมได้สูตรสมุนไพรมาจากตำรับยาพื้นบ้านในท้องถิ่นนั่นเอง
แซะ ฆ้อง กระบุง สุ่ม ไซ คุ ฯลฯ อุปกรณ์จับปลา และเครื่องจักสานพื้นถิ่นของชาวล้านนาที่บางอันคนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักด้วยซ้ำ รวมไปจนถึงงานหัตถศิลป์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานสาน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเขิน กระเบื้องเซรามิก งานกรอบกระจกไม้สลักมือ จนถึงงานผ้าทอที่ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ฝ้าย กัญชง และลินิน ซึ่งเป็นผลงานของช่างฝีมือ และศิลปินพื้นเมืองในชุมชนต่างๆ ทางภาคเหนือ ก็ถูกนำมาประยุกต์เป็นข้าวของเครื่องใช้ และของตกแต่งภายในโรงแรมได้อย่างสวยงาม กลมกลืน และเข้ากับยุคสมัย ซึ่งเกิดจากการที่ทีมออกแบบของรายา เฮอริเทจ ใช้เวลากว่า 2 ปีในการเสาะหาช่างท้องถิ่นตามหมู่บ้าน และตำบลเล็กๆ ทั่วภาคเหนือ เพื่ออนุรักษ์ และสืบสานงานศิลปวัฒนธรมโบราณของล้านนาไว้
รายา เฮอริเทจ นอกจากจะผสมผสานเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรมล้านนาโบราณให้อยู่ร่วมกับยุคสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน ก่อให้เกิดสุนทรียภาพแห่งการพักผ่อนที่ทั้งเงียบสงบ เรียบหรู และงดงามแล้วนั้น ที่แห่งนี้ยังเชื่อมโยงกับชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งผ่านคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านล้านนาสู่ผู้คนที่มาเยือนจากรุ่นหนึ่งต่อเนื่องไปอีกหลายรุ่นนับจากนี้
Spacial Thanks:
Raya Heritage Hotel
TAG
hotel architecture interior culture lifestyle vdo Raya Heritage :The Legend of Region
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
DESIGN / HOTEL
NA TANAO BY POAR ก้อนหมู่เรือนไทยที่ลอยตัวอยู่ระหว่างพื้นที่ไร้ค่าและมูลค่ามหาศาล
“ณ ตะนาว” ด้วยชื่อแล้ว สามารถบอกถึงตำแหน่งของโครงการซึ่งอยู่ริมถนนตะนาว ซึ่งตั้งทำมุมตรงกับซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์พอดิบพอดี ย่านการค้าที่เคยเฟื่องฟูแห่งหนึ่งของรัตนโกสินทร์ชั้นในได้เปลี่ยนไปตามการพัฒนาผังเมือง ทำให้การลงทุนและประกอบธุรกิจบริเวณนี้อาจมีนัยยะที่ลึกซึ้งมากกว่าการสร้างอาคารบนข้อจำกัดเพื่อพิสูจน์ความสำเร็จเชิงรูปธรรมอย่างแน่นอน
Nada Inthaphunt 2 years ago
DESIGN / HOTEL
Uthai Heritage จากโรงเรียนเก่าสู่บูติกโฮเทล แลนด์มาร์กแห่งประวัติศาสตร์ของอุทัยธานี
Uthai Heritage บูติกโฮเทลที่เกิดขึ้นมาจากการรีโนเวทอาคารเก่าของโรงเรียนอุทัยธานี สู่แลนด์มาร์กใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี
EVERYTHING TEAM 3 years ago
DESIGN / HOTEL
Hotel SALA SAMUI Chaweng Beach Resort ตีโจทย์การท่องเที่ยวยุคโซเชี่ยลครองเมือง ด้วยงานดีไซน์ที่ถ่ายรูปแล้วปัง
กูรูในวงการท่องเที่ยวเคยคาดการณ์ไว้ว่า สมุยจะเป็นที่สุดท้ายในเมืองไทยที่สามารถฟื้นตัวจากพิษโควิด สาเหตุหลักๆ เพราะสมุยนั้นเปรียบไปก็เหมือนของเล่นของฝรั่ง ค่าครองชีพโดยรวมจัดว่าสูงไม่แพ้ภูเก็ต แถมยังมี supply เหลือเฟือ ห้องเช่าโรงแรมเล็กโรงแรมน้อยไปจนถึงห้าดาวมีให้เห็นกันแทบจะทุกตารางนิ้ว ที่สำคัญ คนไทยไม่เที่ยวหรอกเพราะค่าตั๋วเครื่องบินที่ผูกขาดไว้โดยสายการบินเดียวนั้นแพงระยับ
แต่ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา โลกโซเชี่ยลกลับพบว่าเหล่า instagramer มากมายไปปรากฏกายอยู่ที่สมุย จนเกิดคำพูดที่น่าหมั่นไส้เบาๆ ว่า “ใครๆ ก็อยู่สมุย”
THT 4 years ago
DESIGN / HOTEL
BLU395 I อาคารที่คืนพื้นที่สีเขียวและเพิ่มพลังงานให้กับย่านสะพานควาย โดยทีมสถาปนิก PHTAA
จากย่านการค้าที่เคยคึกคักในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป สะพานควายกลายเป็นเพียงทางผ่านซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องสภาพการจราจรที่หนาแน่น เมื่อได้รับโจทย์ให้ออกแบบอาคารใหม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนี้ ทีมสถาปนิก PHTAA Living Design ตั้งใจที่จะใช้งานออกแบบเป็นพลังผลักดันในการเปลี่ยนภาพจำของสะพานควายให้กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง "สะพานควายกลายเป็นย่านการค้าขนาดรอง จะเห็นว่าที่นี่มีแต่ร้านซ่อมรองเท้า ซ่อมนาฬิกา และร้านขายของเบ็ดเตล็ด เป็นที่ซึ่งคนไม่ได้ตั้งใจมาเหมือนแต่ก่อน เป็นแค่ย่านทางผ่าน" พลวิทย์ รัตนธเนศวิไล สถาปนิกผู้ร่วมก่อตั้ง PHTAA กล่าว "เราเลยอยากทำให้แถวนี้เป็นย่านทางผ่านที่มีประสิทธิภาพ แค่เราสร้างความน่าสนใจให้กับทางผ่านได้มากขึ้น มันก็ถือว่าเปลี่ยนแล้ว"
EVERYTHING TEAM 5 years ago
DESIGN / HOTEL
97 Yaowarat โรงแรมคลาสสิกสุดไพรเวทแห่งย่านเมืองเก่าของภูเก็ต
ซึมซับเสน่ห์เมืองเก่าผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่กระจายตัวอยู่ในเมืองภูเก็ตโดยรอบ จรดล้มหัวลงนอนบนเตียงในห้องพักดีไซน์คลาสสิกสุดไพรเวทของ 97 Yaowarat โรงแรมแห่งใหม่ ที่ความ “เก่า” กับความ “ใหม่” อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว
EVERYTHING TEAM 5 years ago
DESIGN / HOTEL
Varivana Resort I เชื่อมผืนป่า ผิวน้ำ และสายลม ผสมกันเป็นประสบการณ์ใหม่อย่างลงตัวโดย พอ สถาปัตย์
เสียงยอดมะพร้าวเสียดสีกันตามแรงลมผสมกับเสียงคลื่นดังแว่วมา กลายเป็นท่วงทำนองที่ลงตัวใน "วารีวาน่า รีสอร์ต" (Varivana Resort) โรงแรมที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาท่ามกลางสวนมะพร้าวในเกาะพะงัน ที่นี่ อาคารคอนกรีตเปลือยสามชั้นหันหน้าเปิดรับมุมมองเส้นขอบท้องฟ้าอันไกลโพ้น โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติของแมกไม้ในภูเขาเข้ากับผืนน้ำในท้องทะเลกว้างใหญ่ให้เกิดเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับผู้มาเยือนโดยเฉพาะ
EVERYTHING TEAM 5 years ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
SUBMIT
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION