ผ้าป่าน-สิริมา คิวเรเตอร์สาวจิ๋วแต่แจ๋ว ผู้มุ่งหมายเชื่อมต่อพื้นที่ให้ช่างภาพทุกเจเนอเรชั่น | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

ผ้าป่าน สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ อดีตผู้จัดการแกลเลอรี่ ดูแลพื้นที่สร้างสรรค์ทางศิลปะ และบรรณาธิการนิตยสาร The Jam Factory Magazine จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เริ่มต้นการทำงาน ในวงการบันเทิงจากการเป็นพิธีกรรายการสตรอเบอรี่ชีสเค้ก
  นอกจากงานเบื้องหน้า ผ้าป่านยังเป็นที่รู้จักในฐานะช่างภาพเเนวสตรีทที่มีผลงานโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Street Photo Thailand โดยมีนิทรรศการภาพถ่ายเดี่ยวครั้งแรกของตัวเอง ในชื่อว่า NO[W]HERE MAN ภาพถ่ายสตรีทขาวดำของเมืองนิวยอร์ก และ Danse Macabre นิทรรศการระบำตันตรา ภาพถ่ายเมืองกาฐมาณฑุ จากประเทศเนปาล รวมถึงผลงานนิทรรศการภาพถ่ายอื่นๆ ที่ทำให้ผ้าป่านกลายเป็นช่างภาพสตรีทหญิงที่น่าจับตามองอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
  ในปัจจุบัน ผ้าป่านเป็น Curator อิสระ ทำงานกับเเกลเลอรี่หลายเเห่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนศิลปินหลากหลายแขนงให้ได้เชื่อมต่อกับผู้คน และสังคมในวงกว้าง ผ้าป่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน คัดเลือกศิลปินหน้าใหม่จากเวทีอาร์ตแฟร์ระดับเอเชียอย่าง UNKNOWN ASIA ART EXCHANGE ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และเวทีตัดสินภาพถ่าย Wonder Foto Festival ที่ประเทศไต้หวัน นอกจากนี้ผ้าป่านยังเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อร่วมเป็นหนึ่งแรงในการขับเคลื่อนศิลปะภาพถ่ายของประเทศไทยในเวทีสากล

Photographer:
Tanapol Kaewpring

Writer:
Pithakchai Srisuk

Website:
www.pahparnsirima.com

Facebook:
ppsirima

Instagram:
pahparnsirima

THE CONNECTOR
ผ้าป่าน-สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ คิวเรเตอร์สาวจิ๋วแต่แจ๋ว
ผู้มุ่งหมายเชื่อมต่อพื้นที่ให้ช่างภาพทุกเจเนอเรชั่น

“ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ยิ่งอธิบายว่าป่านทำงานอะไรให้คนอื่นฟังยากเท่านั้น” เป็นสิ่งที่ “ผ้าป่าน” สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ กล่าวติดตลกกับเราในช่วงเริ่มต้นของบทสนทนา ด้วยความที่ทำงานมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ผ่านบทบาทมากมายทั้งพิธีกร ช่างภาพ แกลเลอรี่ไดเร็กเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนกับ“พี่คนกลาง”ของวงการศิลปะที่ได้รับจากคนในวงการ และเป็นสะพานเชื่อมต่อศิลปินทั้งหน้าเก่า และใหม่ให้ได้เกิดการพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจของวัยรุ่นเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่ต้องการสับเท้าเข้ามาอยู่ในโลกของศิลปะไม่น้อย อาจเพราะแบบนี้เธอจึงได้รับบทบาทใหม่เป็นกรรมการสมาคมภาพถ่ายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ EVERYTHING ได้คุยกับเธอถึงเรื่องโอกาสที่จะเกิดขึ้นเมื่อเธอได้รับหน้าที่ อิทธิพลทางความคิด ความตั้งใจที่จะสร้างแพลตฟอร์มเพื่อวงการภาพถ่าย ไปจนถึงอนาคตที่ศิลปะจะไม่ได้รับใช้ศิลปินอย่างเดียวอีกต่อไป

Danse Macabre

  “ป่านเริ่มทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 15 ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนมาถึงช่วงเรียนจบมหาวิทยาลัย เราก็ยังคงทำงานด้านพิธีกร และงานแสดง จากนั้นเหมือนเด็กอายุ 22-23 ทั่วไป คือเราเริ่มตั้งคำถามว่าจริงๆ แล้วเราสนใจอะไร พอได้คำตอบว่าเราไม่ได้อยากทำในสิ่งที่ทำอยู่ไปตลอดชีวิต เริ่มหาเส้นทางใหม่ วันนึงมีคนให้กล้องฟิล์มเรามาเป็นกล้อง Diana F+ แล้วพอถ่ายๆ ไปเราชอบ เราก็เริ่มถ่ายลง อินสตาแกรมในช่วงแรกๆ ที่มันยังไม่ได้เป็นไลฟ์สไตล์มากนัก จนวันนึงมีคนมาเห็นงานเราแล้วชวนไปจัดแสดง งานของเราได้สื่อสารกับคนอื่นๆ เป็นครั้งแรก จากนั้นก็หันมาสนใจทางด้านนี้เต็มตัว ถัดมาไม่นานได้มีโอกาสเป็นแกลเลอรี่ไดเร็กเตอร์ให้กับ The Jam Factory เป็นโอกาสที่เราได้เข้าสู่วงการศิลปะเต็มตัว ได้รู้จักคนในวงการมากขึ้น ได้สร้างสรรค์งานร่วมกับคนอื่นมากขึ้น เรียกได้ว่าการมาทำแกลเลอรี่พาให้เราไปในจุดใหม่ๆ ของชีวิต”

Unsettling
Emotions of
Anxiety

  “ป่านเริ่มทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 15 ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนมาถึงช่วงเรียนจบมหาวิทยาลัย เราก็ยังคงทำงานด้านพิธีกร และงานแสดง จากนั้นเหมือนเด็กอายุ 22-23 ทั่วไป คือเราเริ่มตั้งคำถามว่าจริงๆ แล้วเราสนใจอะไร พอได้คำตอบว่าเราไม่ได้อยากทำในสิ่งที่ทำอยู่ไปตลอดชีวิต เริ่มหาเส้นทางใหม่ วันนึงมีคนให้กล้องฟิล์มเรามาเป็นกล้อง Diana F+ แล้วพอถ่ายๆ ไปเราชอบ เราก็เริ่มถ่ายลง อินสตาแกรมในช่วงแรกๆ ที่มันยังไม่ได้เป็นไลฟ์สไตล์มากนัก จนวันนึงมีคนมาเห็นงานเราแล้วชวนไปจัดแสดง งานของเราได้สื่อสารกับคนอื่นๆ เป็นครั้งแรก จากนั้นก็หันมาสนใจทางด้านนี้เต็มตัว ถัดมาไม่นานได้มีโอกาสเป็นแกลเลอรี่ไดเร็กเตอร์ให้กับ The Jam Factory เป็นโอกาสที่เราได้เข้าสู่วงการศิลปะเต็มตัว ได้รู้จักคนในวงการมากขึ้น ได้สร้างสรรค์งานร่วมกับคนอื่นมากขึ้น เรียกได้ว่าการมาทำแกลเลอรี่พาให้เราไปในจุดใหม่ๆ ของชีวิต”

ART GROUND

ความภูมิใจในการสร้าง“พื้นที่”ของศิลปะ

  “เรารู้สึกว่าทุกๆ งานที่ผ่านมาของเรามันพอจะมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้ทุกๆ งาน แต่งานที่เราภูมิใจที่สุดคือการมีโอกาสทำ Art Ground เรารู้สึกได้ว่างานมันมีความเป็นตัวเรามากๆ ตั้งแต่ในช่วง Pre-Production การได้มีปฏิสัมพันธ์กับคน การได้รวบรวมกลุ่มคนที่มีความสามารถแล้วเราได้สร้างพื้นที่ที่ส่งเสริมทุกคนเกิดคอนเนกชั่นกัน ป่านรู้สึกว่าสิ่งนี้แหละคือตัวเราที่สุด นอกจากนี้งานยังได้รับฟีดแบ็กที่ดี และตรงกับจุดประสงค์ที่เราต้องการหลายๆ อย่าง ทั้งการเปิดโอกาสให้ศิลปินใหม่ๆ หรือศิลปินที่ไม่ได้มีโอกาสแสดงผลงานในอาร์ตแกลเลอรี่ได้มีโอกาสได้เจอกับกลุ่มคนที่มีโอกาสเป็นผู้ซื้อของเขา แล้วมันเกิดขึ้นจริงๆ เราได้เห็นว่าในตลาด Art Market ร้อนๆ ที่เราจัดมีคนพกเงินสดหลักหมื่นมาเพื่อซื้องานของศิลปิน แล้วศิลปินคนนั้นบินมาจากเชียงใหม่ เขาไม่เคยขายงานได้เลย เขาบอกกับป่านว่าสิ่งที่เขาได้จากการมางานนี้สิ่งหนึ่งคือเขาคิดว่างานของเขาเป็นการพูดคุยกับตัวเองมาโดยตลอด ที่นี่เขาได้รู้ว่างานของเขาสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ด้วย อันนี้เป็นอะไรที่ป่านประทับใจมาก และเรารู้สึกว่ามันประสบความสำเร็จ”
  “อีกอย่างคือการเกิดคอมมูนิตี้ระหว่างตัวศิลปินด้วยกันซึ่งเราเชื่อในสิ่งนี้มากๆ ป่านคิดว่าคนเราไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยตัวคนเดียว คือไปมันก็ไปได้แหละ แต่การผสมผสานความคิด และพลังงานที่หลายๆ คนช่วยกันมันสนุก และไปได้ไกลกว่ามาก ศิลปินวาดภาพประกอบคนหนึ่งอาจจะได้เจอแอนิเมเตอร์ งานต่อมาของศิลปินคนนั้นอาจดีเวลลอปไปเป็นแอนิเมชั่น ทำไมจะไม่ละ ความรู้ในวงการมันก็ต่อยอดไปได้เรื่อยๆ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ป่านรู้สึกภูมิใจที่สุดที่ได้สร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาให้ทุกคนเช่นกัน”

เติมความคิดผ่านภาพยนตร์ รับพลังงานจากคนรอบตัว

  “คำว่างานศิลปะมันกว้างมาก โชคดีที่ป่านเป็นคนที่เปิดรับเรื่องราวใหม่ๆ ตลอดเวลา แรงบันดาลใจของเราเลยได้จากหลายๆ อย่างรอบตัว เพราะร่มของศิลปะมันกว้าง แต่สิ่งที่เป็นแรงผลักดันสำคัญของเราเลยคือพลังงานจากศิลปินหลายๆ คนที่เราได้ร่วมงานด้วย การที่เราได้รู้จักคนในวงการจนคุยได้สนิทเป็นเพื่อนกันมันมีพลังงานจากตรงนี้ให้เราเยอะเหมือนกันในการไปต่อ แน่นอนว่ารวมถึงการได้รับฟีดแบ็กหลังจากจบงานด้วย มันเติมเต็มให้เรามีแรงคิดงานต่อได้ ส่วนสิ่งที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อตัวป่านมากเกิดขึ้นในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ การดูภาพยนตร์ของป่านทำให้ป่านรู้สึกว่าได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมายผ่านการพัฒนาตัวละครในภาพยนตร์ดีๆ สองชั่วโมง คือเราสามารถเห็นคนหลายๆ แบบกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ แบบโดยที่เราไม่ต้องเอาตัวเองไปผ่านสถานการณ์นั้นจริงๆ รวมถึงอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนให้เรารู้จักตั้งคำถามกับตัวเอง รู้จักทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อะไรคือเมสเสจที่เราอยากสื่อสารออกไป ซึ่งป่านรู้สึกว่าสิ่งนี้มันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้ป่านโตขึ้นมากๆ และสุดท้ายคือคุณพ่อที่เป็นเหมือน Guidance ของชีวิต”

มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มของวงการภาพถ่ายไทยอย่างเต็มตัว

  “ทุกช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมาป่านรู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่การเป็นสตรอเบอรี่ชีสเค้กที่ทำให้ป่านมีทักษะในการสื่อสารกับคนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งกลายมาเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ป่านสามารถเรียนรู้กระบวนการทำงานของงานอื่นๆ ที่ป่านได้มีโอกาสทำทั้งการเป็นแกลเลอรี่ไดเร็กเตอร์ที่ได้จัด Art Market ซึ่งป่านวิ่งงานเองในหลายๆ ส่วน ลุยงานเองมาตลอด และประสบการณ์ต่างๆ ที่เราเอาตัวเข้าไปพบเจอเองทำให้เมื่อเราได้มาทำงานคิวเรท ที่ได้กลายเป็นพื้นฐานของการทำงานในปัจจุบันของเรา การเลือกอะไรหลายๆ อย่างของป่านอาจทำให้คนเริ่มเห็นสไตล์บางอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นตัวตนของเรา”

  “รวมถึงก่อนหน้านี้ที่ป่านได้เป็นกรรมการตัดสินรางวัลในเวทีต่างประเทศอย่างโอซาก้า และไทเป ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 5 ปี ทำให้ป่านได้รู้จักศิลปิน และนักสร้างสรรค์ในภูมิภาคที่กว้างขึ้น มองเห็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือ เราเริ่มให้ความสำคัญกับการทำงานด้านภาพถ่ายโดยเฉพาะ ทั้งในส่วนของการคิวเรทงาน ผลิตชิ้นงานเอง รวมถึงการทำกิจกรรมเวิร์กช็อปด้วย จนได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมภาพถ่ายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ป่านจึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนตรงนี้ สร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อคนในวงการภาพถ่ายประเทศไทย ทั้งการสนับสนุนช่างภาพรุ่นใหม่ เป็นพื้นที่ที่ช่างภาพทุกคนสามารถคุยกัน รวมถึงนักสะสมและผู้ที่สนใจในวงการภาพถ่าย รวมถึงส่งเสริมวงการให้เกิดการเชื่อมต่อกับกลุ่มช่างภาพในเอเชียมากขึ้น ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนช่างภาพจากต่างประเทศมาแสดงงานในประเทศไทยและผลักดันช่างภาพไทยให้เข้าสู่ตลาดภาพถ่ายทั้งในงานอาร์ตแฟร์ และการจัดแสดงงานตามแกลเลอรี่ต่างๆ โดยอาศัยความร่วมมือกันตรงนี้”

ในวันศิลปะไม่ใช่แค่สิ่งที่ศิลปินสร้างมาเพื่อบอกว่า “ฉันเป็นใคร”

  “เมื่อมองไปยังอนาคตสิ่งที่ป่านสนใจจริงๆ ในตอนนี้คือ ปัญหาของโลก Climate Change การเปลี่ยนแปลงของอากาศที่กระทบกับสิ่งมีชีวิตทั่วโลก ซึ่งน่าจะเป็นหัวข้อที่ทุกคนต้องเริ่มกังวลกันให้มากขึ้นกว่านี้ เมื่อกลางปีมีโอกาสได้ไปดูงานศิลปะที่ Venice Biennale ก็ได้เห็นงานของศิลปินระดับโลกหลายคนที่เขายก Issue ระดับโลกขึ้นมาพูดถึงผ่านตัวงานศิลปะ เขายกปัญหาขึ้นมาเพื่อต้องการให้เกิดการสื่อสารและการพูดคุยถึงปัญหาว่าเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือมีแนวทางที่จะเดินไปข้างหน้ายังไง ป่านคิดว่าเราอาจจะไม่ได้อยู่ในยุคที่งานศิลปะมีไว้เพื่อการ Express ตัวของศิลปินว่าฉันเป็นใครอย่างเดียวแล้ว แต่วงการศิลปะสามารถเป็นพลังสำคัญในการกระจายข้อความเหล่านี้ให้กับผู้คนได้ ไม่ใช่ว่าเราต้องหยุดทำงาน คือชีวิตล้วนต้องเดินไปข้างหน้า แต่เราสามารถไปโดยมีความตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ไปด้วยได้ ทั้งในการใช้ชีวิตเองหรือผ่านในส่วนของการทำงานของเรา ป่านคิดว่าสิ่งนี้แหละคือ Next สำหรับป่านและ Next สำหรับโลกใบนี้ค่ะ”

    TAG
  • design
  • art
  • artist
  • WHAT'S NEXT
  • PAHPARN SIRIMA

ผ้าป่าน-สิริมา คิวเรเตอร์สาวจิ๋วแต่แจ๋ว ผู้มุ่งหมายเชื่อมต่อพื้นที่ให้ช่างภาพทุกเจเนอเรชั่น

DESIGN/ART
October 2019
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • DESIGN/ART

    A HOPE AND PEACE TO END ALL HOPE AND PEACE ศิลปะแห่งการสำรวจรากเหง้าแห่งความขัดแย้งและความรุนแรงในตะวันออกกลาง

    ท่ามกลางไฟสงครามจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ปาเลสไตน์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นคน รวมถึงผู้บาดเจ็บหลายหมื่นคน และผู้พลัดฐิ่นฐานบ้านเกิดนับแสนคน และสงครามยังคงมีทีท่าว่าจะไม่ยุติลงง่ายๆ ซึ่งความขัดแย้งที่ว่านี้ไม่เพียงเกิดจากสาเหตุทางเชื้อชาติและความแตกต่างทางศาสนาเท่านั้น หากแต่ยังเกิดจากการแทรกแซงของชาติมหาอำนาจจากโลกตะวันตกอีกด้วย ​

    Panu BoonpipattanapongJanuary 2024
  • DESIGN/ART

    ROOM063 เปิดประตูสู่ห้วงจิตใต้สำนึก แสวงหาตัวตนเพื่อคงอยู่กับ ก้าม ธรรมธัช สายทอง

    หลังจากคลายล็อคดาวน์ให้ผู้คนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้มากขึ้นนิดหน่อย เราสามารถออกไปทานข้าว นั่งคาเฟ่ เดินห้างสรรพสินค้า หรือกระทั่งออกไปชื่นชมงานศิลปะ สิ่งเหล่านี้ที่เราต่างเคยทำมันในชีวิตประจำวันจนเป็นเรื่องปกติ กระทั่งเราได้รับรู้ว่าการขาดสิ่งเหล่านี้ไปเป็นระยะเวลานานในช่วงเวลาเช่นนี้ คงยิ่งทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกหดหู่หัวใจไม่มากก็น้อย เพราะการใช้ชีวิตทุกวันอยู่ให้ห้องสี่เหลี่ยม ขาดความหลากหลาย ขาดสีสัน ไร้ซึ่งการพบปะผู้คนมันช่างหมองหมน จึงขอพาทุกคนออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมของตนไปรับชมศิลปะพร้อมกับเปิดรับความรู้สึกใหม่ภายในตัวเรากับการแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ ก้าม ธรรมธัช สายทอง ที่มีชื่อว่า ROOM063

    EVERYTHING TEAMSeptember 2021
  • DESIGN/ART

    มองลึกถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน ของอาจารย์อนันต์ ปาณินท์ ในนิทรรศการ Rhythm of Heartbeat

    ในช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ของปีที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ รอบตัวเราอย่างมากมายแล้ว ผู้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวของวงการศิลปะในเมืองไทย จะยังมีได้โอกาสชมผลงาน ของอาจารย์ อนันต์ ปาณินท์ ในนิทรรศการที่ชื่อว่า Rhythm of Heartbeat ซึ่งจะจัดที่ MOCA Bangkok ในระหว่างวันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564

    EVERYTHING TEAMJanuary 2021
  • DESIGN/ART

    Year of the Rat นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในไทยของ อ้าย เว่ยเว่ย

    นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ อ้าย เวยเวย (ai weiwei) ศิลปินชาวจีนและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 63 ผู้มีผลงานด้านศิลปะหลากหลายรูปแบบ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในฐานะผู้วิพากษ์วิจารณ์สังคมและวัฒนธรรมจีน ได้เปิดนิทรรศการผลงานศิลปะของตัวเองที่ชื่อ "Year of the Rat" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงาน Bangkok Art Biennale 2020 โดยนิทรรศการได้เปิดให้ชมแล้วที่ Tang Contemporary Art ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ถนนสี่พระยา

    EVERYTHING TEAM4 years ago
  • DESIGN/ART

    Die Schöne Heimat นิทรรศการผลงานศิลปะของ อ.สมบูรณ์ หอมเทียนทอง ในวันที่คนไม่สามารถเดินเข้าหาศิลปะได้ในเวลานี้ ศิลปินควรทำอย่างไร?

    หากเป็นช่วงเวลาปกติ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อาจารย์ สมบูรณ์ หอมเทียนทอง จะจัดแสดงนิทรรศการชุด “Die Schöne Heimat” (ดี-เชินเน-ไฮมัท) ซึ่งเปิดให้ชมทาง JWD Art Space (ซอยจุฬาลงกรณ์ 16) ไปจนถึงราวกลางเดือนมิถุนายน

    EVERYTHING TEAMApril 2020
  • DESIGN/ART

    “Pet Portrait Project by Crunchy M.” โครงการภาพวาดประกอบน่ารัก ให้พักเบรกจากสถานการณ์โรค

    “ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำอะไรเพื่อช่วยส่วนรวมได้บ้าง” โบ - ณัฐชลัยย์ สุขะมงคล Copy Writer สาวที่ชอบวาดรูปเล่นเป็นงานอดิเรก นึกคิดขึ้นมาได้ในเย็นวันศุกร์วันหนึ่ง ระหว่างที่เธออยู่ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน และออฟฟิศมีนโยบายให้พนักงาน Work from home

    EVERYTHING TEAMApril 2020
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )