MIKE MILLS - กับผลงานที่พูดถึงความสัมพันธ์ หลายมิติจากโลกภาพยนตร์สู่ดนตรี | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

Mike Mills กับผลงานที่พูดถึงความสัมพันธ์
หลายมิติจากโลกภาพยนตร์สู่ดนตรี
  ขึ้นชื่อว่า Mike Mills เขาคือผู้กำกับที่หากินกับเรื่องคนใกล้ตัวได้เก่งสุดๆ เขาเติบโตมาในสภาพสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและซีนดนตรีจัดจ้านที่สุดเมืองหนึ่งในอเมริกาอย่าง เบิร์กลีย์, แคลิฟอร์เนีย เขาเรียนศิลปะกับ Hans Haacke ศิลปินชาวเยอรมันที่อยู่ในนิวยอร์ก และนั่นคือจุดบ่มเพาะที่ทำให้มิลล์ได้รับอิทธิพลจากศิลปะร่วมสมัยมาตั้งแต่ตอนนั้น ยุคของการปฏิวัติด้านดีไซน์ ทำให้เขาถูกหล่อหลอมด้วยงานหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นงานสิ่งพิมพ์ โฆษณา สารคดี มิวสิกวีดีโอ และแน่นอน ภาพยนตร์...ไม้ตายของเขา
  หลายคนคุ้นชื่อเขาจากการกำกับและเขียนบทภาพยนตร์อย่าง “Thumbsucker” ในปี 2005 ที่ได้รางวัลจาก Sundance Film Festival มาครอบครอง ภาพยนตร์ Coming of Age พูดถึงเด็กชายมีปัญหา เก็บตัว ไม่กล้าแสดงออก ซึ่งความกระวนกระวายต่างๆถูกแสดงออกมาผ่านการดูดนิ้วอันเป็นที่มาของชื่อเรื่อง หรือที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้าง “Beginners” ในปี 2010 ความสุดโต่งของเนื้อหาที่พูดถึงเรื่องราวของครอบครัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวละครนั่นก็คือพ่อ-ลูกคู่หนึ่ง นำแสดงโดย ยวน แม็กเกรเกอร์ และ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ภาพยนต์ที่อบอวลไปด้วยความสะเทือนอารมณ์และสนุกสุดโต่งไปพร้อมๆกัน เมื่อในพล็อตหลักของเรื่องเล่าถึงพ่อที่สารภาพกับลูกชายแท้ๆว่าตัวเองเป็นเกย์หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตลง จนกระทั่งงานมาสเจอร์พีซของเขาอย่าง “20th Century Women” ภาพยนต์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมทั้งการพูดถึงมุมมองของคนอเมริกันต่างวัย ที่มีความดราม่าแฝงความตลกร้ายเอาไว้ แล้วหากใครเป็นแฟนผลงานของมิลล์ ก็จะพบว่าเขาแทรกเรื่องของดนตรีไว้ในแต่ละซีนได้อย่างลงตัว มีการพูดถึงศิลปินและเหตุการณ์สำคัญที่เขามักอ้างอิงสภาพสังคมในช่วงนั้นๆได้อย่างแนบเนียน รวมทั้งอุปนิสัยตัวละครที่เขามักจะใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมของคนรอบตัวเสมอ จนกลายเป็นเสน่ห์อันแพรวพราวในงานของเขา
  เทคนิคการใช้ “ภาพนิ่ง” และ “ฟุตเทจเก่าๆ” มายำรวมกัน เหมือนดูงานวิดีทัศน์หรืองานศิลป์ในรูปแบบภาพยนตร์ นี่คือความน่าทึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่เราพบได้ในงานวิดีโอหรือกราฟฟิกของมิลล์ เขาเคยทำให้กับศิลปินมากมายเช่น Air, Sonic Youth, Yoko Ono, Beastie Boys และ ในปีนี้จะเป็นวงอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก The National วงคู่บุญรายล่าสุดของเขา
  มิลล์เป็นแฟนเพลงตัวยงของวง ส่วนสมาชิกในวงต่างก็เป็นแฟนภาพยนตร์ของมิลล์เช่นเดียวกัน พวกเขาเกือบถอดใจและกำลังจะทิ้งช่วงยาวๆหลังจากงานลำดับที่ 7 อย่าง “ Sleep Well Beast” Matt Berninger ฟร้อนท์แมนของวงก็เกิดไอเดียบางอย่าง และตัดสินใจอีเมลไปหามิลล์ พวกเขาปรึกษากันผ่านอีเมลเกี่ยวกับบางเพลงที่ถูกเขียนไว้นานแล้ว บางเพลงคือผลงานการแต่งเนื้อร้องจาก Carin Besser ภรรยาของเบอร์นินเกอร์ ซึ่งเขาไม่รู้จะจัดการยังไงกับมันดี แน่นอนว่าเขาไม่ได้อยากทำมิวสิกวีดีโอ ดังนั้นมิลล์เลยเกิดไอเดียขึ้นว่า ถ้าไม่อยากได้เอ็มวี เราก็ทำหนังไปเลยสิ
  จบการสนทนาและการเชื้อเชิญแบบงงๆนั่น มิลล์ตอบตกลงที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องงานวิดีโอทั้งหมด “ผมกังวลและประหม่าเหมือนกันนะ เหมือนพวกเขากึ่งๆฝากอนาคตของอัลบั้มถัดไปไว้กับผม” มิลล์กล่าว เมื่อทางวงส่งเพลงพวกนั้นให้เขาฟัง ความท้าทายรูปแบบใหม่ที่เขาไม่เคยเจอจากงานเขียนบทก็เริ่มต้นขึ้น ทำให้ช่วงแรกในการทำงานของเขาตะกุกตะกักเล็กน้อย หลังจากนั้นโชคชะตาได้นำพาเขาให้พบกับ Alicia Vikander นักแสดงและเจ้าของรางวัลออสก้าร์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากภาพยนต์เรื่อง “The Danish Girl” และ เธอคือ Lara Croft คนล่าสุดของภาพยนต์จากเกมส์ชื่อดังอย่าง Tomb Raider และเมื่อรู้ว่าวิกันเดอร์ก็เป็นแฟนเพลงของ The National นั่นจึงเพิ่มความมั่นใจให้กับมิลล์เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในงานชิ้นนี้
  “I Am Easy To Find” คือผลงานล่าสุดจาก The National วางจำหน่ายวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลที่ชื่อ “ You Had Your Soul With You” และนอกเหนือจากอัลบั้มแล้ว ทางวงยังประกาศว่า ครั้งนี้พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับหนังสั้นความยาวเกือบ 25 นาที ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของมิลล์ในคอนเซปท์ “A Life In 164 Moments” ในหนังสั้นเรื่องนี้มิลล์สร้างคาแรคเตอร์ของวิกันเดอร์ให้เล่นเป็นช่วงวัยเด็กจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต โดยมีดนตรีประกอบก็คือ 6 เพลงที่วงเคยเขียนไว้ มันคืองานถนัดของเขาที่สื่อสารเรื่องราวผ่านตัวละครเพียงไม่กี่ตัว ตัวละครของมิลล์ส่วนใหญ่มีความซับซ้อน แฝงความบีบคั้นทางอารมณ์ สร้างคาแรคเตอร์ให้มีความขัดแย้งกันเองในบางครั้ง ซึ่งนั่นคืองานถนัดของเขา บวกกับเทคนิคการเล่าเรื่องโดยใช้ภาพเคลื่อนไหว ซับไตเติ้ล บทพูดเชิงกวี เขาจัดวางให้ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องน้อยลง น่าแปลก ที่เรากลับรู้สึกว่า นี่แหละหนา..ความซับซ้อนและหลากมิติของความเป็นมนุษย์ “สำหรับผม อัลบั้มนี้ มันคือความสำเร็จในเรื่องของแนวคิดไปจนถึงเป้าหมายในเชิงศิลปะสุดซับซ้อนและลึกซึ้งมากกว่าที่เคยเป็น...ผมว่ามิลล์สร้างอะไรบางอย่างให้กับงานของเรา เราไม่ต้องพูดกันเยอะ ส่วนใหญ่เขาจะแค่นั่งอยู่ในห้อง ใช้ความเงียบกลั่นกรองทุกสิ่ง เรารู้สึกสบายใจมากๆ เวลาคิดอะไรบางอย่างและมีมิลล์อยู่ ณ ตรงนั้นกับเราด้วย” Aaron Dessner มือกีต้าร์ของวงได้กล่าวถึงการร่วมงานกับมิลล์ นั่นคือความศรัทธาที่สมาชิกในวงมีต่อมิลล์ ทำให้อะไรต่างๆง่ายขึ้น
  บทบาทของมิลล์ในผลงานล่าสุดของ The National กลายเป็นแก่นแท้และจุดเริ่มต้นของอัลบั้มนี้ไปโดยปริยาย เขากลายเป็นเพื่อนที่ทางวงไว้ใจและมักขอคำปรึกษาเสมอ หลายครั้งที่วงหลุดออกจากกรอบเดิมๆที่พวกเขาทำมาตลอด 20 ปี ตั้งแต่ได้มาร่วมงานกับมิลล์ “ดนตรีมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยากแท้หยั่งถึง แต่ในขณะเดียวกันมันสนุกมากๆ เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ผมได้มาอยู่ตรงจุดนี้กับวงโปรดของผม อย่างตอนที่ได้เห็นแอรอนคลุกอยู่กับการเล่นเปียโนจนได้เพลงใหม่ หรือแม้กระทั่งเวลาที่ผมเห็นแมตท์กำลังง่วนอยู่กับเนื้อเพลงความหมายกำกวมแต่สุดบรรเจิดของเขา...เห็นแล้วหายเหนื่อยน่ะ” ไมค์กล่าว

  ดูเหมือนโปรเจกท์ของมิลล์และ The National ยังไม่หยุดอยู่เท่านี้ เราหลังว่าด้วยความเป็นอัจฉริยะของพวกเขาทั้งคู่ เราอาจจะได้ดูหนังสั้นที่เต็มไปด้วยดนตรีสุดไพเราะแบบนี้อีกเร็วๆก็เป็นได้อัลบั้ม I Am Easy To Find พร้อมทั้งหนังสั้นโดยการกำกับของ Mike Mills ออกวางจำหน่ายและรับชมได้พร้อมกันวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ในสังกัด 4AD ชม “I Am Easy To Find “ film by Mike Mills ได้ที่ https://americanmary.com

    TAG
  • culture
  • lifestyle
  • song

MIKE MILLS - กับผลงานที่พูดถึงความสัมพันธ์ หลายมิติจากโลกภาพยนตร์สู่ดนตรี

CULTURE/MUSIC
6 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_5 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM3 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_4 (Japanese Indie special) By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM6 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “คงมี (Maybe I Hope)” เพลงใหม่ดี ๆ จากวง THE JUKKS ที่ปลดล็อคความรู้สึกให้ผู้ฟังได้เกิดใหม่

    เมื่อเสียงดนตรีคืออวัยะวะชิ้นที่ 33 ของวง “The Jukks” จึงไม่แปลกใจที่แม้ผ่านเวลาไปเกือบ ๆ 13 ปี (จากอัลบั้มแรกจนถึงซิงเกิลปัจจุบัน) พวกเขาเหล่าศิลปินจากค่ายเพลงห้องเล็ก ก็ยังสื่อสารกับทุกคนในทุกช่วงเวลา ผ่านเสียงดนตรีที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวง ด้วยเนื้อหา แนวคิด และมุมมองทางดนตรีใหม่ ๆ ได้อย่างมีสไตล์ และยังโดดเด่นด้วยการใช้ภาษาในการเขียนเพลง

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_3 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM9 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_2 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM10 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_1 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM10 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )