LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
Living Upon Nature
เดินทางสู่ประเทศไอซ์แลนด์ร่วม 15 ชั่วโมง เรานั่งคิดทบทวนว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เราเดินทางมาไกลถึงประเทศที่อยู่เกือบจะเหนือสุดของโลก อาจจะเกิดจากเพราะความสงสัยเมื่อหลายคนกล่าวถึงประเทศนี้คือประเทศที่สวยงามที่สุดที่ธรรมชาติสร้างขึ้น คนจากทุกมุมโลกออกเดินทางมาที่นี่เพื่อจะมาตามล่าแสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในตอนกลางคืนที่สวยงาม อลังการ หรือจะเป็นความหม่นหมองของหาดสีดำ เอกลักษณ์ที่แปลกตาที่เราอยากจะเห็นด้วยตาตัวเอง
การอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกหนีได้ทำให้ผู้คนประเทศนี้มักพูดว่า Think Less, Live More เพราะความไม่แน่นอนคือสิ่งที่เขาต้องเผชิญอยู่ตลอด เพราะสิ่งนี้รึเปล่าเลยทำให้คนที่นี่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายเมื่อธรรมชาติคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่และทุกคนพร้อมที่จะเข้าใจและอยู่ร่วมกัน คนส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับมาอยู่กับครอบครัวมากกว่าจะทำงานเกินเวลาเพื่อหาเงินที่เพิ่มขึ้นเพราะเวลาสำหรับเขามันก็ไม่แน่นอนเช่นกัน
ประเทศไอซ์แลนด์มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟ ทะเลสาบ ทะเลดำ น้ำตก ธารนำ้แข็งหรือทุ่งมอสที่เราสามารถเดินทางไปถึงด้วยรถและบางที่จะต้องเดินต่อไปเพื่อให้ถึงจุดชมวิว เราเริ่มต้นด้วยการเดินทางมาถึงภูเขาเคริ์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะไอซ์แลนด์ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเรคยาวิก เป็นภูเขาที่มีรูปทรงสวยงามเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ถ่ายทำซีรี่ส์ที่ดังมากอย่าง Games of Thrones จุดมุ่งหมายวันนี้คือการมานอนจุดแคมป์ให้ใกล้กับภูเขาเคริ์กจูเฟลล์ที่สุดเพื่อจะดูแสงเหนือในตอนกลางคืน ที่นี่คือท๊อปลิสของจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพแสงเหนือที่ช่างภาพทั่วโลกอยากจะมา วันนี้ฟ้าเปิดจึงถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วที่ได้เห็นในคืนที่อยู่ที่นี่พอดี
เดินทางต่อมายังฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อไปชมหินประหลาดที่ดูเหมือนไดโนเสาร์ Hvitserkur คือส่วนยื่นออกมาจากหน้าผาในอดีตที่ถูกคลื่นและลมกัดเซาะบริเวณส่วนเชื่อมต่อที่ไม่แข็งแรงเป็นเวลานาน จนในที่สุดส่วนที่เชื่อมต่อเกิดการพังทลายจมลงไปในน้ำ เหลือเพียงหินบาซอลต์นี้เอาไว้จนกลายเป็นที่ฮิตมากสำหรับนักท่องเที่ยว โดยช่วงหลังผู้คนแถวนั้นตัดสินใจทำฐานรากด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อให้ไม่ทลายลงในอนาคต
เมื่อมาถึงทางตอนเหนือ เราแวะเมืองฮูซาวิค (Husavik) เมืองท่าที่มีการท่องเที่ยวดูปลาวาฬเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมหลักของผู้มาเยือนที่นี่ บรรยากาศของแต่ละส่วนของประเทศมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ที่เมืองนี้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพเป็นชาวประมง ด้วยความที่ท้องทะเลของที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์มากทำให้มีปลาวาฬมาอาศัยอยู่เยอะ เมืองเล็กๆนี้มีความน่ารักและมีพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับปลาให้เที่ยวชมด้วย
ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์มีน้ำตกที่น่าไปเที่ยวคือโกดาฟอส (Godafoss) แปลว่านำ้ตกแห่งพระเจ้า เป็นน้ำตกชื่อดังเพราะความสวยงาม มีรูปทรงเหมือนเกือกม้า ความสูงอยู่ที่ประมาณ 12 เมตรและกว้าง 30 เมตร ที่นี่มีจุดชมวิวอยู่หลายแห่งทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ออกเดินทางต่อไปพักผ่อนที่บ่อน้ำร้อน ที่เมืองมีวัทน์ Myvatn
Jarobooin Vio Myvatn บ่อน้ำพลังความร้อนธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองมีวัทน์ (Myvatn) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากน้ำตก Godafoss ประเทศไอซ์แลนด์มีบ่อน้ำพลังความร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเยอะมากจนเหมือนการแช่บ่อน้ำร้อนคือกิจกรรมโปรดของผู้คนที่นี่และนักท่องเที่ยวไปแล้ว เมืองมีวัทน์เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีพืชพรรณหลากหลายชนิดให้ได้ชมและบริเวณทะเลสาบมิวันท์นี้มีนกนานาชนิดมาอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศ
มาถึงทางตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ หากใครชอบปีนเขา เราแนะนำให้มาที่น้ำตกลิทลันเนสฟอสส์ (Litlanesfoss) หนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์มากที่สุด เพราะมีความสวยงามของหินบาซอลต์ ซึ่งเกิดจากการเย็นตัวอย่างช้าๆของลาวาเมื่อ 20 ล้านปีที่แล้ว ใช้เวลาเดินไปถึงประมาณ 1 ชั่วโมงเศษแล้วแต่ความฟิตของแต่ละคน ถ้าใครมีแรงสามารถเดินเขาขึ้นต่อไปยังน้ำตกเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสามของไอซ์แลนด์ด้วยความสูงที่ 128 เมตร ระหว่างทางเดินขึ้นไป หากคุณหันหลังกลับมามอง คุณจะเห็นวิวที่แตกต่าง และสวยงามกว่ามุมอื่น นี่คือเหตุผลของการปีนเขาสำหรับเรา การเดินทางจากทางตะวันออกมายังตอนใต้ของประเทศมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากที่สุด ระหว่างทางจะเจอกับถนนวิ่งคดไปมามองไกลๆจะเห็นเป็นต้วเอสที่วิ่งอยู่ระดับเดียวกับเมฆ
หนึ่งในไฮไลท์ของฝั่งตะวันออกต้องให้กับเวสทราฮอน (Vestrahorn) ที่อยู่ในเมือง Stokksnes เพราะที่นี่คือภูเขาไฟสีดำที่มีรูปทรงสวยงาม ส่วนที่สูงสุดของภูเขาอยู่ระดับเดียวกับเมฆ ที่ทำให้มีการสลับเลเยอร์กันอย่างสวยงาม มีหาดทรายสีดำและทะเลด้านหน้าที่ทำให้วิวตรงนี้ช่างลงตัว ที่นี่จะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Batman Mountain เพราะมีความเหมือนปีกค้างคาวในส่วนปลายของภูเขา จึงเป็นที่มาของโลโก้หนังเรื่อง Batman
เมื่อมาถึงตอนใต้ของประเทศ เราจะได้พบกับทะเลสาบโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งหลายสาย ทะเลสาบแห่งนี้เมีก้อนนำ้แข็งที่ใหญ่มาก นำ้ใสบริสุทธิ์ทำให้เราได้เจอกับแมวน้ำมากมายว่ายน้ำหาปลาอยู่เยอะและเรายังสามารถเห็นแมวน้ำขึ้นมานอนเล่นตามชายฝั่งด้วย
ฟอลซาลอน (Fjallsarlon) อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวนาโจกูล (Vatnajokull) มันคือทะเลสาบธารนำ้แข็งที่ใหญ่มาก อาจจะดูว่าเหมือนกับทะเลสาบโจกุลซาลอนแต่มีหน้าหาดที่ใหญ่กว่าและคนน้อยกว่า ทะเลสาบ ฟอลซาลอนอยู่ตรงกลางระหว่างภูเขา ดูท่าทางเหมือนมันจะไหลลงมาแต่ถูกสกัดด้วยความเย็นจึงเกิดนำ้แข็งที่มีรูปร่างโค้งสวยงาม เราเดินถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด สามารถนั่งมองออกไปที่ธารนำ้แข็งได้สักพักใหญ่ๆเลย
อุทยานแห่งชาติสกัฟตาเฟลล์ เป็นสถานที่สำหรับเดินเขาไปดูน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากๆอย่าง Svartifoss ข้างทางระหว่างเดินขึ้นถือว่าอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยดอกไม้ ต้นไม้อันสวยงาม เดินเขาจาก Svartifoss ไปอีก 3 ชั่วโมงก็จะสามารถเห็นความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งวัทน่าโยคูลล์ (Vatnajokull Glacier) ซี่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และใหญ่ที่สุดในยุโรปเท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกันธารน้ำแข็งวัทน่าโยคูลล์เป็นธารน้ำแข็งที่เก่าแก่กว่ายุคน้ำแข็งไปอีกราวๆ 2,500 ปี ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของยอดเขาฟานนาดาลสนักเกอร์ (Hvannadalshnúkur) ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์เช่นกัน
เดินทางมาถึงตอนใต้สุดของประเทศไอซ์แลนด์คือเมืองวิค (Vik) และมาแวะชม Reynisfjara Black Sand Beach หาดทรายสีดำของไอซ์แลนด์ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นหาดทราบสีดำที่สวยที่สุดในโลก ในภายใต้ความสวยนี้ หาดทรายสีดำแห่งนี้ยังมีคลื่นทะลที่แรงและน่ากลัว มีคลื่นเป็นเกลียวม้วนใหญ่ๆ โดยจะมีป้ายติดบอกเราก่อนเข้าว่า ห้ามหันหลังให้กับคลื่นเป็นอันขาดเพราะมันอาจจะสามารถพาเราลงทะเลไปได้ ซึ่งมีคนได้มาเสียชีวิตที่นี่เพราะไม่ฟังคำเตือน ความสวยงามแบบลึกลับคือคำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับที่นี่
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติได้มอบให้กับเรา มันคือประสบการณ์ที่ให้เราได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ตำแหน่งไหนบนโลก มนุษย์คือสิ่งเล็กๆบนโลกเมื่อเทียบกับธรรมชาติ การเดินทางในประเทศไอซ์แลนด์ด้วยรถบ้านคือการเดินทางที่ออกจาก comfort zone ของชีวิตทั้งนั้น การที่เราได้ออกมาอยู่ใกล้กับธรรมชาติมากๆ ทำให้เราห่างไกลกับความสะดวกสบายแบบทริปอื่นๆ การจัดสรรค์เวลาต่างๆในการใช้ชีวิตที่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมมันก็คือการกลับมาสู่ความธรรมดาของมนุษย์ที่แท้ มันทำให้เราได้รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้หลายอย่างเมื่อมันถึงเวลา comfort zone ทำให้เรากลายเป็นคนที่ขี้เกียจมากกว่าเป็นคนทำอะไรไม่เป็น เพราะไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หากเราตั้งใจจะทำมัน และการเดินทางทุกครั้ง มันไม่มีบอกในไกด์บุ๊คเล่มไหนว่าข้างทางเราจะเจอกับอะไร ต้นไม้ ดอกไม้อุดมสมบูรณ์หรือแห้งแล้งก็แล้วแต่ว่าเราอยู่ที่นี่ ณ เวลาใด หรือมันจะเจอหลุมบ่อ ทางขรุขระข้างหน้ามากน้อยแค่ไหน เราเท่านั้นที่จะบอกตัวเองได้ในวันที่เราออกเดินทาง
lCELAND, Living Upon Nature
/
มาเลเซียคือหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่ไปมาง่าย เดินทางสะดวก ใช้เวลาจากเมืองไทยเพียง 2 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น หลายคนคงสงสัยว่า 4 วัน 3 คืน เราสามารถทำอะไรได้บ้างที่นี่ ทริปนี้เรามาเที่ยวเมืองกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงขนาดเล็ก มีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคนเท่านั้น เราจะพาไปเดินเที่ยวชมเมืองตั้งแต่ย่านธุรกิจ ย่านนักท่องเที่ยว ย่านศูนย์การค้าใหญ่ๆกลางเมือง แวะชมเมืองเก่าผ่านงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามและน่าสนใจมาก
/
มันไม่ใช่วันพิเศษ ไม่มีสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้า ทุกๆ อย่างเกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผล แค่เกิดขึ้น ฟรันซ์ คาฟคา มักเริ่มต้นงานเขียนแบบนั้น และในเช้าแสนเรียบง่ายแบบเดียวกัน ฉันก็ตื่นขึ้นมาพบตัวเองอยู่กลางเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กอีกครั้ง
/
เดินทางมาเป็นเวลาชั่วโมงนิดๆก็เข้าสู่อดีตเมืองหลวงอันเก่าแก่ของไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้เพราะที่นี่ครบเครื่องจริงๆให้ทั้งความสุขใจและสุขกายภายในทริปเดียว ใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวแบบเชิงประวัติศาสตร์ไทย เดินเล่นเที่ยวเมืองเก่าชมงานสถาปัตยกรรม ไหว้พระทำบุญ แวะคาเฟ่ขนมไทยสไตล์โมเดริ์น เราขอให้ทุกคนเพลินไปกับการเดินทางครั้งนี้ที่ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 2 วัน 1 คืนเท่านั้น ส่วนครอบครัวไหนกำลังอยากกำลังอยากจะหาที่พักผ่อน ใกล้ๆกรุงเทพมหานคร เราแนะนำพาลูกเก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปเที่ยวและทำบุญที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยากัน เพราะหลังจากที่เราได้ไปมาหลายรอบแล้ว เราก็ได้มีข้อคิดเล็กๆสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ว่าทำไมเราถึงควรพาลูกไปเที่ยวอยุธยา
/
สำหรับคนรักโค้งหลงเขา คุณต้องมาโดนค่ะ แม้จะยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ทั่วไทย ไปแค่ไม่กี่ที่ แต่หลิงขอยกให้เส้นแม่ฮ่องสอนลูปเป็นเส้นทางที่มีโค้งเยอะที่สุดและขี่สนุกที่สุด ส่วนวิวทิวทัศน์ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะมันสวยจนทำให้เราลืมเหนื่อย ถนนหนทางก็จัดว่าดีทีเดียว ชาวต่างชาติยังต้องมา แล้วทำไมเราจะไม่ไป?!
/
ให้การเดินทางเป็นแรงบันดาลใจ และเติมเชื้อเพลิงให้ความคิดสร้างสรรค์กับ 4 มิวเซียมใน Berlin
/
"แม่โขงตายช้าๆ และเงียบเชียบ จากบทความหนึ่งของนักวิชาการต่างชาติที่พูดถึงเขื่อน 7 แห่งในจีน และวันหนึ่งเราจะถูกจำกัดเสรีทางธรรมชาติ และนี้คือเรื่องราวของการเดินทางในครั้งนี้"
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )