Photographers:
Pattanaphoom P.
Shama, Hotel Labaris
Writer:
Nada Inthaphunt
Architect:
CHAT Architects
Interior:
C&C
Landscape:
Shma
Branding:
be>our>friend Studio
Lighting:
Gooodlux design
Diagrams:
CHAT Architects
Special Thanks:
Chatpong Chuenrudeemol
Lallana Xumsai Na Ayudhya
Thidakan Sukwandee
Hotel Labaris Khao Yai
Shma
รูปร่างของโรงแรม มิติหนึ่งคือการเลียน
รูปทรงภูเขา ในขณะที่มิติหนึ่งคือการรวมร่างหลังคาลูกผสม และอีกมิติหนีึ่งคือมุมกลับของศาลา Great Hall
มิติอันหลากหลายของสถาปัตยกรรมแบบ “เขาใหญ่ลูกผสม” โดย CHAT Architects สถาปัตยกรรมของ Hotel Labaris Khao Yai มีมุมมองที่สามารถถูกแบ่งออกมาเล่าได้หลายเรื่องราว แล้วจะพบความคุ้นเคยกึ่งแปลกตาซึ่งซ่อนมากับภาษาอาคารอันไม่ได้เป็นเพียงปราสาทหินในเขาวงกตตามตำนานตะวันตกเท่านั้น แต่ยังมีโลกคู่ขนานจากการตีความ “เขาใหญ่” ให้เป็นอีกมุมที่ยังไม่เคยพบมาก่อน
ในฐานะผู้ออกแบบโครงการ คุณฉัตรพงษ์ ชื่นฤดีมล แห่ง CHAT Architects ตั้งใจนำโจทย์ของเจ้าของโครงการที่ต้องการให้เกิดสถานที่พักผ่อนซึ่งสามารถรวมความสนุก แฟนตาซี ความลึกลับซับซ้อน บนภาพรวมเขาวงกตของ “Labyrinth” มารวมกับบริบทของสถาปัตยกรรมในท้องที่ “เขาใหญ่” ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ให้ถูกปรุงออกมาเป็นเวทมนตร์ของสถาปัตยกรรมลูกผสม
ความพิเศษของโครงการเริ่มตั้งแต่ที่ตั้ง ณ “เขาใหญ่” ฝั่งโคราชซึ่งมีสถานะเป็นเมืองพักตากอากาศใกล้อุทยานแห่งชาติที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ซึ่งมีความพิเศษในการนำเข้ารูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกซึ่งยุคหนึ่งเคยเป็นอเมริกันคาวบอยมาก่อน จนถึงช่วง
สิบปีนี้จึงเป็นยุคของสถาปัตยกรรมหินแบบยุโรป (Stone Architecture) เปลี่ยนมุมมองการรับรู้ความเป็น Resort Town ไปตามแต่ละยุค แม้อาจไม่หลีกหนีความจริงของที่ตั้งซึ่งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยได้ ความเป็น “เขาใหญ่” นี้กลายเป็นดินแดนที่สามารถยอมรับความแปลกใหม่ กับการที่เมืองไทยไม่ใช่เมืองไทย แต่กลายเป็นไทยผสมกับยุโรป
“ไทยผสมยุโรป” บริบทของเขาใหญ่ที่ถูกเล่าออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ไดอะแกรม
ทางเดินยาวเชื่อมต่อแต่ละส่วนของโครงการ ตั้งแต่ส่วนโรงแรมจนถึง Great Hall
โรงแรมตั้งอยู่บนแปลงที่ดิน 15 ไร่ มีลักษณะแคบลึกติดถนนธนะรัชต์ ทั้งเป็นเนินไล่ความสูงจากถนนลงด้านล่างที่เป็นลำธารธรรมชาติเชื่อมคลองลำตะคลอง ซึ่งมีฝายกั้นน้ำที่ประดิษฐ์โดยคุณพ่อของเจ้าของโครงการ เพื่อทอนความแรงน้ำในลำธารช่วงหน้าฝน โดยพื้นที่สามารถมองเห็นเขาที่ล้อมรอบอยู่สองฝั่ง ถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วน หรือ 5 Chapters ได้แก่ ส่วนต้อนรับ ส่วนโรงแรม ส่วนวิลล่า ส่วนกลางบริการต่างๆ หรือ Great Hall และสระน้ำ โดยผังแต่ละส่วนจะเชื่อมกันด้วยทางเดินยาว ซึ่งมีช่วงเว้นวรรคพักหายใจจากทางเดินยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว
ตัวโครงการมีหัวใจหลักอยู่ที่ส่วนโรงแรม ประกอบด้วยลักษณะกลุ่มอาคาร 4 หลัง สูง 3 ชั้น มีหลังคาทรงจั่วสูง มีรูปลักษณ์โดดเด่น ที่สามารถนำมาใช้อธิบายแนวคิดความทับซ้อนของมิติได้ชัดเจนมากที่สุด หากมองด้วยจินตนาการรูปร่างในมิติแรกของตัวโรงแรม คล้ายเกิดจากการตัดทอนรูปทรงเพื่อเลียนแบบธรรมชาติของภูเขา แต่ที่มาของการออกแบบรูปทรงของอาคารเกิดจากการเชื่อมลักษณะอาคารสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของไทย และยุโรปเรียงต่อกันเป็นปราสาทกลางหุบเขา
องค์ประกอบในภาษาสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ถูกผสมกับการใช้วัสดุ Stone Architecture แบบยุโรป
เขาวงกตเบื้องหลัง Infinite Forest สู่ The Secret Room
ตัวอาคารโรงแรมมีส่วนผสมของการใส่ภาษาสถาปัตยกรรมไทย เช่นใต้ถุนสูงของบ้าน ชานนอกเรือน กันสาดของหลังคาที่ยื่นออกมากันฝน ฝาปะกนที่เห็นภายนอกบ้านที่ถูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์ตามบริบทของท้องที่เข้าไปอย่างแนบเนียน เพียงแต่มีการเปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นหิน จากผนังปะกนเป็นผนังลูกฟักที่โดยทั่วไปใช้กับพื้นที่ภายใน และหยิบเส้นโค้งของซุ้มประตู (Arch) อันเป็นลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมยุโรปมาใช้บิดมุมมองการรับรู้ให้เกิดการซ้อนทับระหว่างเส้นโค้งและเสาสี่เหลี่ยม ในอีกมุมหนึ่งหากกลับหัวอาคารพบความคล้ายคลึงของฟอร์มลักษณะเดียวกับหลังคา ศาลา Great Hall แม้ที่มาของมิตินี้จะเกิดจากรูปทรงหลังคาที่เชื่อมกันของหลังคาสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่นก็ตาม
ประตูปริศนาเข้าเขาวงกต บานประตูเกิดจากประตูไม้เก่าที่ใส่ร่างใหม่ในรูปแบบยุโรป ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เปิดกว้างอย่าง “Labyrinth” ทำให้เกิดการทดลองบนพื้นที่ Transition ระหว่างโปรแกรม เพื่อท้าทายตรรกะ และสร้างประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานให้เชื่อมโยงกับธีมของโรงแรมบนสเกลที่ทำความเข้าใจได้ ก่อนเข้าห้องพักแต่ละห้องต่างมีทางเข้าของตนเอง ผ่านประตูปริศนา 48 บาน ซึ่งพาเข้ามาสู่ทางเดินพุ่มไม้เขาวงกตสูง 3 เมตร ให้คาดเดาไม่ได้ว่าจะมีปลายทางอย่างไร โดยใช้วิธีการแบ่งผังพื้นที่อย่างสมมาตรตามหลักพื้นฐานของการสร้างเขาวงกต และบันไดเวียนขึ้นชั้นสองและสามที่ให้ความรู้สึกเสมือนเดินอยู่บนบันไดของ M.C. Escher หรือ โถงบันไดเวียนในฮอกวอตส์ สร้างประสบการณ์ทางเข้าด้วยระยะทางที่แตกต่างกันของห้องพักในอาคารแต่ละหลัง ทำให้แต่ละห้องมีพื้นที่ภายนอกเป็นของตนเอง เป็นรูปแบบการเข้าพักที่ไม่ซ้ำใคร
ความคดเคี้ยวของห้องพักที่แตกต่างกัน สร้างประสบการณ์์ ความหลากหลาย
ในขณะที่แต่ละห้องเสมือนมีพื้นที่ภายนอกเป็นของตนเอง
ประตูปริศนา 48 บาน สู่เขาวงกตของการทดลอง Transition คาดเดาไม่ได้ว่าปลายทางไปจบที่ไหน
Hotel Labaris คือผลลัพธ์จากการตีความการเป็น “เขาใหญ่” ในยุคปัจจุบัน โดยยอมรับจากแนวเดิมในสิ่งที่เป็น แล้วผสมกับสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่การกลายพันธุ์จากความตะวันตกเป็นตะวันออก แต่คือการผสมยีนส์เด่นของทั้งสองพันธุ์เกิดเป็นการจับภาษาที่สามารถปรับใช้บนพื้นที่ได้ในขณะเดียวกันกระบวนการสามารถชี้ให้เห็นถึงความพิเศษของสิ่งที่มีอยู่เดิม เมื่อนำมาพัฒนารูปร่างจนกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถสร้างสถาปัตยกรรมลูกผสมแบบนี้ได้ที่ “เขาใหญ่”
ดินแดนเขาวงกตตามตำนานของ Hotel Labaris
สระน้ำวน Endless River การไหลเวียนที่ไร้จุดเริ่มต้นและสิ้นสุด
Hotel Labaris คือผลลัพธ์จากการตีความการเป็น “เขาใหญ่” ในยุคปัจจุบัน โดยยอมรับจากแนวเดิมในสิ่งที่เป็น แล้วผสมกับสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่การกลายพันธุ์จากความตะวันตกเป็นตะวันออก แต่คือการผสมยีนส์เด่นของทั้งสองพันธุ์เกิดเป็นการจับภาษาที่สามารถปรับใช้บนพื้นที่ได้ในขณะเดียวกันกระบวนการสามารถชี้ให้เห็นถึงความพิเศษของสิ่งที่มีอยู่เดิม เมื่อนำมาพัฒนารูปร่างจนกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถสร้างสถาปัตยกรรมลูกผสมแบบนี้ได้ที่ “เขาใหญ่”
ดินแดนเขาวงกตตามตำนานของ Hotel Labaris
ณ อาณาจักร Labaris ดินแดนเหนือจินตนาการแห่งนี้อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่น่าผจญภัยมีความคงอยู่เสมือนฝันซ้อนทับอยู่บนโลกมนุษย์ จากคำที่แปลงมาจากภาษากรีกของคำว่า Labyrinth นั่นเอง โดยมีผู้พิทักษ์คู่ตำนานอย่าง Minotaur ผู้มีเขางาม คอยดูแลที่แห่งนี้ ในขณะที่สัตว์ผู้อยู่อาศัยมีลักษณะเป็นลูกผสมอันมีความคล้ายคลึงกับสัตว์ในโลกความเป็นจริง แต่ทุกตัวล้วนมีเอกลักษณ์ของ “เขา” อยู่บนหัว แสดงถึงความเป็นชนพื้นเมืองของอาณาจักร “เขาใหญ่” ในตำนานเขาวงกต
ในดินแดนเขาวงกตแบ่งออกเป็น 5 Chapters ที่แบ่งการอยู่อาศัยตามลำดับการเข้าถึง
ตั้งแต่ Chapter 1 Welcoming Zone สถานที่ของชนพื้นเมืองมาคอยต้อนรับนักเดินทางทั้งหลาย และอยู่อาศัยในสวน Lapin Hill ที่มีลักษณะเป็นเขาวงกต และหน้าสนาม Whispering Meadows มีโพรง Rabbit Café คอยเปิดบริการนักเดินทางขาจร ซึ่งมีโพรงประตูเขาวงกตพิเศษให้ชาวเมืองผ่านเข้ามาได้
หลังประตู 48 บาน คือการซอยผังทางเดินวงกตเข้าสู่อาคารทั้งสี่หลังอย่างสมมาตร
ในส่วน Chapter 2 The Heart of Labyrinth สามารถให้นักเดินทางได้เข้าพักอาศัยจำนวน 60 ห้อง มีทางเข้าจากส่วน Labaris Greeting แสนผจญภัยในสวนและบันไดเขาวงกต เป็น 2 ฝั่งปราสาท คือ Starry Castle และ Midnight Castle
เมื่อนักเดินทางเข้ามาสู่ Chapter ที่ 3 อาจหลงทางไปกับป่าลวงตา Infinite Forest ก่อนเข้าถึง The Secret Room ที่ถูกแบ่งอย่างสมมาตรทั้งสองฝั่งก็ได้
ก่อนเดินทางไปถึง Chapter สุดท้าย Cattle Queen จะคอยอยู่ต้อนรับทุกคนใน The Beauty of Romance Chapter ที่ 4 ราชินีที่ดูแลดินแดนแทน Minotaur ที่ติดภารกิจเดินทางแสวงหาอาณาจักรใหม่ แล้วมาจบที่ Chapter ที่ 5 Meander Wonderer อันมีลำธารน้ำวนของ Endless River ไหลวนเป็นรูป Infinity ให้เสมือนเป็นการว่ายน้ำอยู่ในป่า
Rabbit Café บริเวณ Whispering Meadows ที่ชนพื้นเมืองคอยต้อนรับนักเดินทางทั้งหลาย
ซึ่งนอกจากมิติของภาษาสถาปัตยกรรมที่ซ้อนกันแล้ว เรื่องราวของเขาวงกตก็ถูกออกแบบให้เกิดขึ้นระหว่างจินตนาการและความสามัญ ให้เหล่านักเดินทางผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาค้นหาความลับในดินแดนนี้ต่อไป
TAG
hotel labaris khao yai architecture design มิติอันหลากหลายของสถาปัตยกรรมแบบ “เขาใหญ่ลูกผสม” โดย CHAT Architects
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
DESIGN / HOTEL
NA TANAO BY POAR ก้อนหมู่เรือนไทยที่ลอยตัวอยู่ระหว่างพื้นที่ไร้ค่าและมูลค่ามหาศาล
“ณ ตะนาว” ด้วยชื่อแล้ว สามารถบอกถึงตำแหน่งของโครงการซึ่งอยู่ริมถนนตะนาว ซึ่งตั้งทำมุมตรงกับซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์พอดิบพอดี ย่านการค้าที่เคยเฟื่องฟูแห่งหนึ่งของรัตนโกสินทร์ชั้นในได้เปลี่ยนไปตามการพัฒนาผังเมือง ทำให้การลงทุนและประกอบธุรกิจบริเวณนี้อาจมีนัยยะที่ลึกซึ้งมากกว่าการสร้างอาคารบนข้อจำกัดเพื่อพิสูจน์ความสำเร็จเชิงรูปธรรมอย่างแน่นอน
Nada Inthaphunt 2 years ago
DESIGN / HOTEL
Uthai Heritage จากโรงเรียนเก่าสู่บูติกโฮเทล แลนด์มาร์กแห่งประวัติศาสตร์ของอุทัยธานี
Uthai Heritage บูติกโฮเทลที่เกิดขึ้นมาจากการรีโนเวทอาคารเก่าของโรงเรียนอุทัยธานี สู่แลนด์มาร์กใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี
EVERYTHING TEAM 3 years ago
DESIGN / HOTEL
Hotel SALA SAMUI Chaweng Beach Resort ตีโจทย์การท่องเที่ยวยุคโซเชี่ยลครองเมือง ด้วยงานดีไซน์ที่ถ่ายรูปแล้วปัง
กูรูในวงการท่องเที่ยวเคยคาดการณ์ไว้ว่า สมุยจะเป็นที่สุดท้ายในเมืองไทยที่สามารถฟื้นตัวจากพิษโควิด สาเหตุหลักๆ เพราะสมุยนั้นเปรียบไปก็เหมือนของเล่นของฝรั่ง ค่าครองชีพโดยรวมจัดว่าสูงไม่แพ้ภูเก็ต แถมยังมี supply เหลือเฟือ ห้องเช่าโรงแรมเล็กโรงแรมน้อยไปจนถึงห้าดาวมีให้เห็นกันแทบจะทุกตารางนิ้ว ที่สำคัญ คนไทยไม่เที่ยวหรอกเพราะค่าตั๋วเครื่องบินที่ผูกขาดไว้โดยสายการบินเดียวนั้นแพงระยับ
แต่ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา โลกโซเชี่ยลกลับพบว่าเหล่า instagramer มากมายไปปรากฏกายอยู่ที่สมุย จนเกิดคำพูดที่น่าหมั่นไส้เบาๆ ว่า “ใครๆ ก็อยู่สมุย”
THT 4 years ago
DESIGN / HOTEL
BLU395 I อาคารที่คืนพื้นที่สีเขียวและเพิ่มพลังงานให้กับย่านสะพานควาย โดยทีมสถาปนิก PHTAA
จากย่านการค้าที่เคยคึกคักในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป สะพานควายกลายเป็นเพียงทางผ่านซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องสภาพการจราจรที่หนาแน่น เมื่อได้รับโจทย์ให้ออกแบบอาคารใหม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนี้ ทีมสถาปนิก PHTAA Living Design ตั้งใจที่จะใช้งานออกแบบเป็นพลังผลักดันในการเปลี่ยนภาพจำของสะพานควายให้กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง "สะพานควายกลายเป็นย่านการค้าขนาดรอง จะเห็นว่าที่นี่มีแต่ร้านซ่อมรองเท้า ซ่อมนาฬิกา และร้านขายของเบ็ดเตล็ด เป็นที่ซึ่งคนไม่ได้ตั้งใจมาเหมือนแต่ก่อน เป็นแค่ย่านทางผ่าน" พลวิทย์ รัตนธเนศวิไล สถาปนิกผู้ร่วมก่อตั้ง PHTAA กล่าว "เราเลยอยากทำให้แถวนี้เป็นย่านทางผ่านที่มีประสิทธิภาพ แค่เราสร้างความน่าสนใจให้กับทางผ่านได้มากขึ้น มันก็ถือว่าเปลี่ยนแล้ว"
EVERYTHING TEAM 5 years ago
DESIGN / HOTEL
97 Yaowarat โรงแรมคลาสสิกสุดไพรเวทแห่งย่านเมืองเก่าของภูเก็ต
ซึมซับเสน่ห์เมืองเก่าผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่กระจายตัวอยู่ในเมืองภูเก็ตโดยรอบ จรดล้มหัวลงนอนบนเตียงในห้องพักดีไซน์คลาสสิกสุดไพรเวทของ 97 Yaowarat โรงแรมแห่งใหม่ ที่ความ “เก่า” กับความ “ใหม่” อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว
EVERYTHING TEAM 5 years ago
DESIGN / HOTEL
Varivana Resort I เชื่อมผืนป่า ผิวน้ำ และสายลม ผสมกันเป็นประสบการณ์ใหม่อย่างลงตัวโดย พอ สถาปัตย์
เสียงยอดมะพร้าวเสียดสีกันตามแรงลมผสมกับเสียงคลื่นดังแว่วมา กลายเป็นท่วงทำนองที่ลงตัวใน "วารีวาน่า รีสอร์ต" (Varivana Resort) โรงแรมที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาท่ามกลางสวนมะพร้าวในเกาะพะงัน ที่นี่ อาคารคอนกรีตเปลือยสามชั้นหันหน้าเปิดรับมุมมองเส้นขอบท้องฟ้าอันไกลโพ้น โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติของแมกไม้ในภูเขาเข้ากับผืนน้ำในท้องทะเลกว้างใหญ่ให้เกิดเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับผู้มาเยือนโดยเฉพาะ
EVERYTHING TEAM 5 years ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
SUBMIT
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION