LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
ในงานฟุตบอลประเพณีฟุตบอล จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74
ท่ามกลางเสียงเชียร์บอลคึกคัก กับขบวนพาเหรด และการแปรอักษรในงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74 นี้ ไม่ได้สะท้อนเพียงความสมัครสามัคคีระหว่างสองมหาวิทยาลัย หรือเป็นกิจกรรมสนุกสดใสของวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพลังของคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อน “Make a Change เปลี่ยน ปรับ ขยับสังคม” ให้ทุกคนทุกเพศทุกวัยตระหนักถึงการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจังด้วย โดยในงานนี้ยังได้ผู้ใหญ่อย่าง GC มาร่วมสนับสนุนและให้คำปรึกษาให้งานฟุตบอลประเพณีครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนหรือปรับชีวิตประจำวันของเราให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าขึ้น จนถึงการแยกขยะและจัดการขยะอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น



Waste This Way #รักษ์โลกให้ถูกทาง เป็นเคมเปญของ GC ในงานครั้งนี้ มาพร้อม 3 คีย์เวิร์ดหลัก “ลด เปลี่ยน แยก” ที่ถูกสอดแทรกอยู่ในกิจกรรมทุกส่วนของงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะโดยรอบสนาม ในขบวนพาเหรด จนถึงบนสแตนเชียร์ มาดูกันว่าแนวทาง “ลด เปลี่ยน แยก” จาก GC ในงานนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ลดขยะตั้งแต่ต้นทางการใช้
ท่ามกลางแดดจ้าและอากาศที่ร้อนในวันนั้น ทำให้ผู้ร่วมงานที่อยู่ภายนอกสนามแวะเวียนไปยังซุ้มน้ำเพื่อเติมน้ำหวานๆ ให้ร่างกายให้อยู่บ่อยๆ โชคดีที่งานนี้ทาง GC ได้คิดกลยุทธิ์ในการลดขยะจากแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ด้วยการรณรงค์ให้นำแก้วน้ำส่วนตัวมาเพื่อรับเครื่องดื่มได้ฟรีเลย ส่วนใครที่ไม่ได้พกแก้วมาเองทางงานก็ได้เตรียมแก้ว Bio Compostable ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพมาให้แทน

สรุปผลสำเร็จของการ “ลด” ในงานนี้ คือ ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก 18,121 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 2,013 ต้น ลดการใช้แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-Use Plastic) 2,487 ชิ้น และลดการนำขยะไปฝังกลบ 72%





เปลี่ยนไปใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หนึ่งในไฮไลท์ของงานฟุตบอลประเพณีคือเหล่าขบวนพาเหรดของทั้งสองมหาวิทยาลัยที่เป็นเสียงสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของนิสิตนักศึกษาต่อประเด็นต่างๆ รอบตัว โดยในปีนี้นำเสนอทั้งประเด็นด้านการเมือง สังคม จนถึงสิ่งแวดล้อม โดยทาง GC ยังได้เป็นผู้ช่วยหาวิธีจัดการกับขยะจากขบวนพาเหรดและแสตนด์ ที่หลังจากจบงานจะผ่านการคัดแยกเพื่อเข้าสู่กระบวนการ Reuse Recycle และ Upcycling ซึ่งขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ทางด้านบนสแตนเชียร์ ทาง GC ก็ยังสนับสนุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพสำหรับใส่อาหารกลางวันและอาหารว่างไว้เติมพลังให้กับนิสิตนักศึกษาบนแสตนด์อีกด้วย
สรุปผลสำเร็จของการ “เปลี่ยน” ในงานนี้ คือ สามารถเปลี่ยนไปใช้กล่องบรรจุอาหารเคลือบพลาสติกชีวภาพได้ 8,880 ชิ้น สามารถเปลี่ยนไปใช้เสื้อ Upcycling จากขวดพลาสติก สำหรับสตาฟเชียร์ได้ 3,700 ตัว และเปลี่ยนไปใช้ถุง Upcycling จากขวดพลาสติกได้ 5,700 ใบ






แยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อให้สามารถนำไปจัดการต่อได้อย่างเหมาะสม
ทั้งบริเวณโดยรอบสนาม ที่พักสตาฟ จนถึงพื้นที่รับรองผู้ใหญ่รวมทั้งหมด 21 จุด ได้จัดให้มีถังแยกขยะที่ถูกต้องภายใต้แนวทาง “เท ทิ้ง เท ท้ิง) โดยต้องเริ่มจาก เท น้ำ/น้ำแข็ง/เศษอาหาร ก่อน ทิ้ง โดยแยกเป็นวัสดุแห้งรีไซเคิล (กระป๋องน้ำอัดลม แก้วกระดาษ แก้วพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว) แก้ว Bio และขยะเลอะ (ทิชชู่ใช้แล้ว กล่องข้าว แก้วน้ำปั่น ถุงร้อนที่เลอะ เป็นต้น) อีกทั้งทาง GC ยังให้คำแนะนำเรื่องการออกแบบกิจกรรมด้านการคัดแยกขยะบนสแตนแปรอักษร รวมถึงแสตนคนดูให้กับนิสิตนักศึกษาทั้งสองมหาวิทยาลัยด้วย โดยถังขยะออกแบบมาใหม่ให้เข้าใจง่ายและเห็นได้ชัดเพื่อสามารถแยกขยะพลาสติกประเภท PET และ PE ที่นำมารีไซเคิลต่อไปได้

ด้วย GC มุ่งเน้นส่งเสริมแนวคิดของ Circular Living หรือการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนในชีวิตประจำวันเพื่อร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนอยู่แล้วนั้น ในงานนี้ทาง GC ยังได้สนับสนุนวัสดุทางเลือกอย่างพลาสติกชีวภาพสลายตัวได้ทางชีวภาพ (GC Compostable) และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตผ่านกระบวนการอัพไซคลิง(Upcycling) ให้กับทั้งสองมหาวิทยาลัย ได้แก เสื้อสตาฟ และถุงยังชีพด้วย


สรุปผลสำเร็จของการ “แยะขยะ” ในงานนี้ คือ สามารถแยกขยะรวม 4,992 กิโลกรัม
หลังจากแยกขยะแล้วนั้น ขยะจะถูกนำไปจัดการต่อให้เหมาะสม โดยเข้าสู่กระบวนการ Upcycling หรือสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ อย่าง ขวดพลาสติกทั้งหมดที่รวบรวมได้ในงานจะนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปเป็น รองเท้า เพื่อมอบให้กับนักเรียนที่ขาดแคลน ส่วนผ้าและไวนิล จะถูกใช้เป็นวัสดุสำหรับทำกระเป๋าใบใหม่มอบให้น้องๆ ในพื้นที่ห่างไกลเช่นกัน และไม้จะถูกนำไปสร้างบ้านร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ขยะเศษอาหาร จะนำไปเป็นอาหารสัตว์และทำปุ๋ย ส่วนขยะพลาสติกชีวภาพ นำไปฝังเพื่อสลายตัวเป็นปุ๋ย หรือใช้เป็นกระถางเพาะชำต่อไป


สิ่งสำคัญของงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ในทุกๆ ปี จึงไม่ใช่อยู่ที่ผลแพ้ชนะในสนาม แต่เป็นการสะท้อนพลังของคนรุ่นใหม่ว่าพวกเขาอยากสร้างการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนสังคมโลกต่อไปในทิศทางใดให้เติบโตอย่างยั่งยืนจวบจนถึงรุ่นพวกเขาและรุ่นต่อๆ ไป
เรียนรู้แนวทาง “ลด เปลี่ยน แยก” ในงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74
/
คุณอาร์ต - อยุทธ์ มหาโสม สถาปนิกและผู้ก่อตั้ง A A D Design - Ayutt and Associates Design คือหนึ่งในสถาปนิกแถวหน้าของไทยที่เลือกใช้กระเบื้องของ WDC ในงานออกแบบหลากหลายโปรเจกต์ ทั้งภายในและภายนอก สำหรับวันนี้ที่คุณอาร์ตได้มาเยือน WDC Flagship Showroom Ratchada อีกครั้ง จึงได้มาแชร์มุมมองการเลือกกระเบื้องที่ต้องคำนึงถึงหลากปัจจัยมากกว่าความสวยงาม พร้อมเปิดลิสต์นวัตกรรมกระเบื้องแห่งอนาคตของ WDC ที่ถูกพัฒนาให้สามารถยกระดับทั้งด้านดีไซน์, นวัตกรรม และความคุ้มค่า ซึ่งเหมาะสำหรับนำไปใช้งานหรือต่อยอดไอเดียงานออกแบบต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ยังแชร์ความประทับใจที่ได้มาเปิดไอเดียการเลือกใช้วัสดุ และอัพเดทนวัตกรรมกระเบื้องที่เปิดโลกให้กับคุณอาร์ตได้มากกว่าเดิม
By WDC/
สัตว์เลี้ยงยุคใหม่ สำคัญไม่แพ้สมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้าน เพราะเป็นทั้งเพื่อนคู่ใจในยามเหงา เป็นลูกรักที่คอยหวงแหน เป็นกำลังใจในวันที่เหนื่อยล้า และสำหรับบางคนก็เป็นสัตว์บำบัดที่คอยช่วยบรรเทาอาการป่วยด้วยเหมือนกัน ในการดูแลให้เจ้าสมาชิกสี่ขาของครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดอายุขัย เหล่าคุณพ่อคุณน้องหมาและบรรดาทาสแมวจึงต้องเตรียมอาหารที่ดี ต้องเตรียมพื้นที่ภายในบ้านหรือคอนโดมิเนียมให้เหมาะสม นั้นคือ มีอากาศและแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในเพื่่อลดความชื้น ไม่มีมุมอับที่มักเป็นจุดสะสมฝุ่น ใช้กระเบื้องแบบไม่ลื่น ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุตกแต่งพื้นและผนังของห้องอย่าง กาวยาแนว ที่ดูผิวเผินอาจเป็นแค่สิ่งที่สร้างสีสันให้กับห้องจนไม่สำคัญ หรือมีโอกาสน้อยมากที่สัตว์จะไปสัมผัส แต่ความจริงแล้วกาวยาแนวก็อาจเป็นต้นตอที่ทำร้ายสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้เช่นเดียวกัน
By JORAKAY/
ก้าวแรกที่ดี จะส่งผลให้ก้าวต่อไปของลูกมีความมั่นคงและปลอดภัย เหล่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่จึงต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญกับสุขภาพในช่วงปีแรก ๆ ของลูก แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าเราเตรียมพร้อมมาอย่างดีแล้ว เพราะทุก ๆ รายละเอียดในชีวิตของลูก ต้องถูกรีเช็คอีกครั้งจนมั่นใจว่าปลอดภัยจริง ๆ และจะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือระบบภายในร่างกายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น อาหาร สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดู วัสดุก่อสร้างที่ใช้ในการรีโนเวทห้องใหม่ให้เหมาะกับการเลี้ยงเด็ก อย่างกาวยาแนวเองก็เช่นกัน เพราะแม้จะดูเล็กจนอาจเผลอมองข้ามไปได้ แต่กาวยาแนวเองก็ควรถูกเลือกให้เหมาะกับห้องนอนและห้องเลี้ยงเด็กเพื่อความปลอดภัยของลูก ทำให้การดูแลลูกน้อยดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
By JORAKAY/
โซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์ทำให้เราใช้ชีวิต รวมถึงทำงานได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วมากจริง ๆ แต่บางครั้งมันก็ทำให้เราเผลอลืมใช้เวลาในโลกชีวิตจริงไป คนรุ่นใหม่ และผู้ใหญ่บางกลุ่มจึงเลือกถอยห่างออกจากโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ และเร่ิมต้นเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ใหม่ ลดการใช้โซเชียลมีเดียให้เหลือแค่พอจำเป็น หรือทำ Social Detox มากยิ่งขึ้น แล้วหันไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้านมากยิ่งขึ้น เพื่อเริ่มปรับสมดุลทางอารมณ์ด้วยการสัมผัสกับธรรมชาติ สายลม และแสงแดด
By JORAKAY/
แม้จะผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว แต่ผลกระทบของโรคระบาดในปี 2019 ก็ยังคงสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสังคม รวมถึงไลฟ์สไตล์ของเรามาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะกับเรื่อง Health and Wellness Living ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ที่ทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจเท่านั้น แต่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเป้าหมายใหญ่ในชีวิต อย่างการมีสุขภาพแข็งแรง การอยู่อาศัยที่ดี และมีความปลอดภัยในชีวิต เมื่อเกิดมลภาวะที่เป็นอันตรายหรือสถานการณ์โรคติดต่อ ผู้คนในสังคมจึงติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดเพื่อหาทางรับมือและป้องกัน และมีการวางแผนถึงแนวทางการดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพกายอย่างจริงจังในระยะยาว
By JORAKAY/
คราบราดำ เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจที่สุดสำหรับคนรักบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้งานปูกระเบื้องของเราหมดสวย และดูไม่สะอาดตาแล้ว ยังอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ระคายเคือง และส่งผลเสียต่อระบบหายใจได้ด้วย โดยสาเหตุของคราบราดำเกิดได้ทั้งจากความชื้น การสะสมของสิ่งสกปรก จนถึงการเลือกใช้กาวยาแนวคุณภาพต่ำที่เสื่อมสภาพได้ง่ายด้วย ดังนั้นจากนี้ต้องไม่ใช่ “กาวยาแนวยี่ห้ออะไรก็ได้” อีกต่อไป
By COTTO
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )