Elephant World สถาปัตยกรรมจากคนเพื่อช้าง โดยผศ.บุญเสริม เปรมธาดา สถาปนิกไทยเจ้าของรางวัลระดับโลก | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

Design: Architecture:——
Public Space

Architect:
Boonserm Premthada

Special Thanks:
Boonserm Premthada
Bangkok Project Studio Surin Provincial Administrative Organization

Photographer:
Tanapol Kaewpring

Writer:
Nada Inthaphunt

การออกแบบ Stadium ที่มาจากการ ศึกษาพฤติกรรมของช้าง

สถาปัตยกรรมเป็นศาสตร์ที่เกิดมาจากคนเพื่อคน แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่จะเกิดมาจากคนเพื่อช้าง หนึ่งในงานที่ถูกบรรจุใน Body of Work ของ อ.บุญเสริม เปรมธาดา ผู้คว้ารางวัล Royal Academy Dorfman Award ประจำปี 2019

   บนถนนสายเล็กๆ จากถนนใหญ่ วิ่งตัดผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนาสีเขียวเป็นแปลงๆ ไกลเกือบสุดตาของชาวนาสุรินทร์ในช่วงหน้าฝน ที่คอยคั่นระหว่างแต่ละชุมชน ทิวทัศน์โดยรอบทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินทางอยู่ใน Middle of Nowhere เมื่อเส้นทางวิ่งเข้ามาลึกขึ้นจะเริ่มพบ วัด โรงเรียน ที่มีชื่อเกี่ยวกับช้าง แม้แต่หมู่บ้านที่มองเข้าไปใต้หลังคาบ้านหลายหลัง จะเห็นเงาของสัตว์ขนาดใหญ่คือช้าง บ้างก็จะถูกผูกไว้ใต้เงาต้นไม้ เรากำลังเข้าสู่หมู่บ้านชาวกูย ณ บ้านตากลาง ที่ตั้งของโครงการโลกของช้าง หรือ Elephant World ในความดูแลของ องค์การส่วนบริหารจังหวัดสุรินทร์ โดยมีผู้ออกแบบโครงการคือ Bangkok Project Studio ที่ก่อตั้งโดย อาจารย์บุญเสริม เปรมธาดา

โครงสร้างเหล็กที่ถูกปิดด้วย ไม้เบญจพรรณ
วัสดุที่ไม่ถาวร ทำให้เกิดการใช้งานที่หมุนเวียนได้

   ความสำคัญของช้างในบ้านเราคือสัตว์ที่คู่บ้านคู่เมืองมาโดยตลอด แม้เราอาจจะถูกสอนมาแต่มีโอกาสน้อยครั้งที่จะได้สัมผัส ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของช้างกับชาวกูย ซึ่งเป็นคนชาติพันธุ์ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดสุรินทร์มาเป็นเวลานานแล้วนั้น มีความพิเศษมากกว่าเรื่องของคนและสัตว์ทั่วไป “ช้างในสุรินทร์มีความแตกต่างจากที่อื่น เพราะที่นี่เลี้ยงช้างเหมือนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งมีความผูกพัน สังเกตจากบ้านดั้งเดิมของชาวกูยจะเป็นบ้านหลังคาทรงจั่วธรรมดาๆ แต่แบ่งส่วนหนึ่งคนอยู่ ส่วนหนึ่งช้างอยู่ เป็นวิถีธรรมชาติของเขา” อาจารย์บุญเสริมกล่าวถึงความสัมพันธ์ของคน และช้างของที่นี่ ซึ่งคนภายนอกอาจไม่เคยรู้ แต่เมื่อเศรษฐกิจภายในหมู่บ้านไม่ค่อยเจริญเติบโต จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวบ้านซึ่งเป็นคนเลี้ยงช้าง ตัดสินใจพาช้างออกเดินทางไปตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อหารายได้ ระหว่างการเดินทางในแต่ละครั้งนั้นจะทำให้ช้างเกิดอุบัติเหตุและป่วยอยู่ตลอด ทางรัฐบาลและจังหวัดสุรินทร์จึงมีแนวคิดพาช้างกลับบ้านมาอยู่ในถิ่นฐานทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจัดทำโครงการโลกของช้าง ซึ่งจะเป็นอาณาจักรของช้างที่มีขนาดใหญ่ และมีช้างเลี้ยงมากที่สุดในโลกนี้ขึ้นมา ให้สมกับที่สุรินทร์เป็นเมืองช้าง

   “ในฐานะที่เป็นผู้ออกแบบโครงการ โลกของช้าง ผมจึงมีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้ช้างและคนมีความเข้าใจกัน มีปฏิสัมพันธ์กันได้ในพื้นที่นี้ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยอยู่ในชุมชน คนที่เข้ามาท่องเที่ยว ได้เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของคนกับสัตว์นั้นเป็นอย่างไร” อาจารย์บุญเสริมพูดถึงเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้คนภายนอกเข้าใจในความสัมพันธ์ของช้างและคนในชุมชน ซึ่งไม่ใช่ตามความเข้าใจของคนภายนอกที่มองว่านำช้างมาใช้แรงงาน “ตามมุมมองของผม ช้างในสุรินทร์เป็นสัตว์ที่มีความเชื่องที่สุด และใกล้ชิดคนที่สุด”

   “การค้นพบที่น่าสนใจคือ Non-Architecture หรือสิ่งที่ไม่ใช่สถาปัตยกรรม ความกว้างไกลไม่ใช่เฉพาะตัวอาคาร แต่เป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่ชาวบ้านประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบโดยสถาปนิก” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ค้นพบเมื่อทำ Research ความเป็นอยู่ในหมู่บ้านชาวกูย โดยนำสิ่งรอบๆ ตัวในสถานที่แห่งนี้มาใช้ เป็นที่มาในการออกแบบ และแนวความคิดของการก่อสร้างทั้งหมด

บริเวณตรงกลางโล่งๆ เป็นพื้นที่สำหรับให้ช้างแสดง
สังเกตว่าเป็นลักษณะเว้า เข้าออก เพื่อให้ช้างเข้ามาใกล้กับคนดูได้ด้วย

ภูมิประเทศสูงๆ ต่ำๆ ลักษณะเหมือนเนินในภาคอีสาน ซึ่งเป็นดินลูกรังจากการขุดทำบ่อ เก็บน้ำ และให้ช้างเล่นน้ำในไซต์มาเป็นเนินดินในอัฒจันทร์

ELEPHANT STADIUM

   “ในส่วนของ Stadium มีลักษณะเหมือนเป็นสนามเด็กเล่นของช้าง เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าเมื่อช้างกับคนเล่นกันแล้วเป็นอย่างไร” อาจารย์บุญเสริมเปรียบเทียบแนวคิดของการสร้างอาคารหลังนี้ เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสร้างความเข้าใจให้กับคนภายนอกได้เข้ามานั่งสังเกตวิถีชีวิต ในสถานที่ซึ่งจำลองลักษณะภูมิประเทศสูงๆ ต่ำๆ เหมือนเนินในภาคอีสาน เอาดินลูกรังจากการขุดทำบ่อเก็บน้ำ ให้ช้างเล่นน้ำ เป็นวิธีการเอาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวซึ่งประหยัดที่สุดเอามาทำเป็นเนินดิน Landscape ภายใน พื้นที่จึงเสมือนถูกเชื่อมให้ต่อเนื่องกันทั้งข้างในและข้างนอก

ช้างเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านชาวกูย จะอยู่พื้นที่ซึ่งเป็นสเกลของคน แต่ตอนนี้คนจะเป็นฝ่ายเข้ามาอยู่ในบ้านของช้างซึ่งเป็นสเกลของช้างแทน “สังเกตได้ว่าจากหลังคาทรงจั่วขนาดมหึมาด้วยสเกลช้าง สเกลของอาคารของสถาปัตยกรรมเกี่ยวกับช้างที่ศึกษาพบว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อช้าง ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกที่เราออกแบบ และต้องการให้มนุษย์รับรู้ขนาดในสเกลของมัน ให้สังเกตถึงความใหญ่” การออกแบบพื้นที่ต่างๆ ถูกออกแบบมาให้ช้างได้อยู่อย่างสะดวกสบาย อาคารลักษณะเปิดโล่งที่มีหลังคาทรงจั่วรูปทรงปกติ แต่เปิดช่องว่างเพื่อถ่ายเทอากาศ มีช่องหลังคาให้แสงลงมา และสามารถให้ต้นไม้ที่จะปลูกโตทะลุขึ้นไปเป็นเหมือนร่ม แผ่ข้างบนคลุมเป็นหลังคาอีกชั้นให้ความร่มเย็น หลังคาในสเกลนี้มีความหนาเกือบหนึ่งเมตรครึ่งตามสัดส่วนทางวิศวกรรม ปิดโครงสร้างเหล็กด้วยไม้เบญจพรรณ “วิธีการออกแบบคือแทนที่จะทำอะไรถาวร การออกแบบให้สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากร” ส่วนที่คนสัมผัสโดยตรงจะถูกแทรกการออกแบบที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายตามภูมิปัญญา โดยช่างที่ใช้เป็นช่างในท้องที่ “ลักษณะงานของผมเป็นงานที่ใครทำก็ได้ ดังนั้นเราต้องเข้าใจในศักยภาพของช่างแต่ละท้องที่ ความดิบก็คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานท้องถิ่น”

ม้านั่งยาวที่ออกแบบโดยชาวบ้าน (Non-Architect) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอัฒจันทร์

เสาคอนกรีตเปลือยรอบๆ เรียงรายเป็นตัวแทนการถ่ายทอดจิตวิญญาณ ของงานสถาปัตยกรรมในแบบบุญเสริม บริเวณฐานรากจะยกลอยทำให้เสามีความเเข็งแรงขึ้น บางส่วนจะมีฐานรากจมลงไปข้างล่างจะเห็นได้ว่าลักษณะของฐานรากจะถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างกันไปโดยธรรมชาติ

หินบะซอลต์์มีลักษณะที่หยาบ และพบได้เฉพาะในจ.สุรินทร์
เท้าของช้างที่เป็นหนังอ่อนจึงไม่อาจเดินขึ้นมาบนส่วนบริเวณที่นั่งคนดู

  อาจารย์บุญเสริมได้อธิบายถึงความดิบหยาบที่เกิดขึ้นบนองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรมในอาคาร Stadium นี้ว่า เกิดจากความตั้งใจ และความไม่คาดคิดกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ต้องการสื่อออกมา “จะเห็นได้ว่าเสาคอนกรีตเปลือยรอบๆ เรียงราย ต้องการถ่ายทอดจิตวิญญาณของงานสถาปัตยกรรมในแบบบุญเสริม คือจิตวิญญาณของ สิ่งที่หยาบ และความไม่คาดคิด”

ระดับความสูงของเนินดินในพื้นที่อัฒจันทร์มีความแตกต่างหลายระดับความสูง ตั้งแต่ระดับพื้นลานจนเกือบถึงหลังคา

ด้วยความมหึมาของหลังคาในสเกลของช้างอาจไม่ทันสังเกตว่าเป็นทรงจั่ว และเปิดเป็นช่องว่างเพื่อถ่ายเทอากาศ
และเป็นช่องแสง เพื่อให้ต้นไม้เติบโตขึ้นไปแผ่ปกคลุมหลังคาอีกชั้น

BRICK TOWER

   “ถ้า Stadium เป็นที่ของช้าง ตรง Tower นั้นจะเป็นที่ของคน” เพื่อให้คนภายนอกได้มาใช้พื้นที่บนหอสังเกตเห็นบริบทของโครงการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับวัฏจักรของช้างตั้งแต่เกิดจนตายและมีสุสานในวัดเป็นของตนเอง เป็นวิถีธรรมชาติของคนที่นี่ซึ่งมีความผูกพันกับช้าง รวมถึงได้เห็นถึงพื้นที่ราบสูงกว้างและความเป็นเมืองสุรินทร์ที่ไม่ใช่เมืองใหญ่นัก

   โดยปกติการสร้างหอชมวิวมักจะมีจุดประสงค์ในการนำคนขึ้นไปสู่ด้านบนสุด เพื่อชมวิวจากจุดซึ่งสามารถมองวิสัยทัศน์ได้กว้างที่สุดในบริเวณ แต่การทำ Tower ของที่นี่จะมีแนวคิดแตกต่างจากของที่อื่น เนื่องจากมีจุดประสงค์ให้ผู้มาชมสามารถเข้าถึงคุณค่าของ Landscape บริเวณรอบๆ ได้ในแต่ละชั้นของโครงการ เป็นการให้คนกระจายอยู่แต่ละชั้นแล้วใช้เวลากับสิ่งงดงามโดยไม่ต้องรีบร้อนเพื่อไปให้ถึงข้างบนสุดเพียงอย่างเดียว สังเกตได้จากบันไดที่ซ้อนกันไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ชั้น เพิ่มพื้นที่การเดินได้อย่างทั่วถึงในแต่ละชั้น

ที่ตั้งของโครงการเหมือนตั้งอยู่บนพื้นที่ Middle of Nowhere แต่ที่นี่จะได้เห็นวัฏจักรช้างตั้งแต่เกิดยันตาย วัดของช้างเป็นสิ่งพิสูจน์ของความผูกพันของช้างกับคน

หอคอยถูกออกแบบให้มีบันไดซ้อนกันไปมาเพื่อการกระจายคนในแต่ละชั้น และเพื่อให้คนหยุดพัก และชื่นชมธรรมชาติ

   Brick Tower เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างสำหรับคนเพราะฉะนั้นจะมีขนาดสเกลของมนุษย์ ลักษณะของอาคารนั้นไม่มีรูปทรงที่ชัดเจน แต่เป็นความตั้งใจสร้างให้ไม่มีส่วนเหลี่ยมมุม โครงสร้างหลักคือเสาที่ถูกถ่ายเทน้ำหนัก ก่อด้วยอิฐ และซอยเป็นเนื้อของอาคารโปร่งไร้กำแพง สามารถเดินเข้าอาคารได้จากช่องว่างของเสาทุกทิศทาง หากเกิดกรณีฉุกเฉินคนก็สามารถเข้ามาหลบภายในอาคารได้ เมื่อช่องว่างของโครงสร้างถูกทำเป็นกรอบประตูเข้าออกด้านล่าง ด้านบนทำหน้าที่เป็นกรอบหน้าต่างที่ซอยเสาให้ถี่ขึ้นเพื่อถ่ายน้ำหนัก ซึ่งเป็นลักษณะภาษาเดียวกับที่พบในหมู่บ้านชาวกูย เวลาคนมองจากภายนอกจะเห็นเป็นช่องลวดลายในขณะที่มองจากภายในออกมาจะเป็นเพียงลักษณะของกรอบมุมมอง หอทั่วไปอาจมีการปิดจบด้านบน แต่หอที่อาจารย์บุญเสริมออกแบบนั้น ต้องการสื่อถึงจิตวิญญาณแห่งความอิสระและการปลดปล่อย เนื้อของอาคารที่เริ่มจากด้านล่างด้วยเสาก่ออิฐจึงไม่มีการปิดจบ ไร้หลังคา โดยให้ตัวเสาแต่ละต้นวิ่งขึ้นไปที่ความสูงไม่เท่ากันอีกด้วย

ELEPHANT MUSEUM

   หากสองอาคารข้างต้นนั้นมีผู้ใช้งานหลักที่แยกชนิดกัน พิพิธภัณฑ์ช้างไทยที่อยู่ในส่วนกระบวนการก่อสร้างหลังนี้เป็นอาคารที่สร้างเพื่อให้ทั้งคน และสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันได้เกือบทั้งพื้นที่

   ลักษณะอาคารเสมือนสวนสาธารณะที่เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เกิดจากการ ตัด สอย ดึง แมสขนาดใหญ่ รอยแยกของแมสเกิดเป็นทางเดินเปิดโล่ง และแบ่งการใช้งานออกในแต่ละแมส การเปิด-ปิดของแมสได้สร้างปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงพื้นที่ภายในและภายนอก (Inside–Out) มีโปรแกรมการใช้งานทั้งส่วนจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ช้างไทย ส่วนขายของที่ระลึก และโปรแกรมรองรับหลักในอาคารรูปแบบของอาคารมีความคล้ายคลึงกับโครงการสถาบันกันตนา แต่ในความเหมือนนี้มีความแตกต่างที่ขนาดและภาษาการใช้วัสดุ สร้างความรู้สึกที่แตกต่างกันด้วยบริบท และเหตุผลสนับสนุนทั้งจากการศึกษาพฤติกรรมช้าง เช่น การมองเห็น การก้าวเท้า การเดิน การได้ยิน และมีรายละเอียดอีกมาก จนรวบรวมเป็นหนังสือด้วยตนเองในระยะเวลาหลายปีมานี้

ผังโครงการโลกของช้าง
1. Brick Tower
2. Elephant Stadium
3. Elephant Museum

กำแพงอาคารที่ไล่ความสูงไม่เท่ากันเพื่อเพิ่มผัสสะทางเสียง

ทางเข้าอาคารที่ค่อยๆ ก่ออิฐเพิ่มความสูงเป็นเว้าโค้ง

   ตามงานวิจัยการใช้ภาษาเสียงใน “Sound Brick” เพื่อสร้างการต่อยอดจากต้นแบบการศึกษาหลักแบบ “เสียงในภูมิสถาปัตยกรรม” (Soundscape) กำแพงอิฐขนาดใหญ่ในสเกลของมนุษย์นั้นเป็นการก่ออิฐซึ่งมีความหนากักเก็บเสียงได้ในระดับความสูงภายใน และมีลักษณะค่อยๆ เพิ่มความสูงจนเป็นส่วนโค้งจากทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารทางด้านหน้า การเว้าโค้งในแต่ละระดับเปลี่ยนแปลงความสูงเพื่อเกิดการถ่ายเทของอากาศ ลม และเสียง ทั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้คนแยกแยะความแตกต่างของเสียงในพื้นที่ได้ การก่ออิฐที่เรียบไม่มีลวดลายนั้นอำนวยต่อการเดินทางของเสียงจากบริบทของธรรมชาติทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการมีต้นไม้ระหว่างทางเดิน นอกจากให้ความร่มเย็นแล้วยังช่วยลดทอนการสะท้อนของเสียงในพื้นที่ เพื่อให้ผู้คนซึมซับความพิเศษของสถานที่ ได้ดีขึ้นด้วย

   “ผมเชื่อได้ว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการหนึ่งที่ใช้สถาปัตยกรรมในการเชื่อมโยงคนกับช้าง และธรรมชาติเข้าหากัน สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งคือสถาปัตยกรรมนั้นจะสามารถสร้างโอกาสให้กับชุมชน และชาวบ้านในแถบนี้ สร้างโอกาสให้กับเมืองสุรินทร์รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เชื่อได้ว่าอาคารและลักษณะโครงการนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ชาวสุรินทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่ยังสะท้อนให้เห็นว่าในบางครั้งสัตว์นั้นอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”สถาปัตยกรรมของอาจารย์บุญเสริม และทีม Bangkok Project Studio ได้คำนึงถึงการสร้างพื้นที่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจุดประสงค์ของงานชิ้นนั้นจะสร้างเพื่อใคร สุนทรียศาสตร์ที่เกิดขึ้นภายในงานจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสเรื่องราวของคนและช้างได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความสำคัญคืองานสถาปัตยกรรมนั้นต้องมาสัมผัสกับสถานที่ด้วยตนเอง นั่นจะเป็นการทำให้กระบวนการของงานสมบูรณ์ในที่สุด

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่รับสเกลทั้งคน และช้าง
    TAG
  • Body of work
  • Royal Academy Dorfman Award 2019
  • บุญเสริม เปรมธาดา

Elephant World สถาปัตยกรรมจากคนเพื่อช้าง โดยผศ.บุญเสริม เปรมธาดา สถาปนิกไทยเจ้าของรางวัลระดับโลก

ARCHITECTURE/PUBLICSPACE
5 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • DESIGN/PUBLICSPACE

    ELEPLANT MUSEUM พื้นที่พบกันของคน ช้าง และธรรมชาติ / ภูมิพิพิธสถาน โดย อ.บุญเสริม เปรมธาดา และ BANGKOK PROJECT STUDIO

    เมื่อหนึ่งปีที่แล้วทีม EVERYTHING ได้มีโอกาสไป เก็บภาพโครงการโลกของช้าง หรือ Elephant World จังหวัดสุรินทร์ กับผู้ออกแบบโครงการ Bangkok Project Studio ที่ก่อตั้งโดย อาจารย์บุญเสริม เปรมธาดา การเดินทางไปครั้งนั้นทำให้เราสัมผัสถึงความพิเศษของสถานที่ตั้ง รวมถึงความผูกพันฉันมิตร ระหว่าง คนกับสัตว์รายล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการซึ่งแตกต่างจากที่อื่น

    EVERYTHING TEAM4 years ago
  • DESIGN/PUBLICSPACE

    VESSEL by THOMAS HEATHERWICK

    เมื่อประติมากรรมเเละสถาปัตยกรรม หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง Hudson Yards เปิดตัว Landmark แห่งใหม่ใน New York ผลงานการออกแบบของ Thomas Heatherwick

    EVERYTHING TEAM6 years ago
  • DESIGN/Architecture

    OB House by THE OTHERS บ้านที่ตอบโจทย์รสนิยมและตัวตนของผู้อาศัย ภายใต้สถาปัตยกรรมมินิมอลที่มีเอกลักษณ์

    บ้านหลังแรกที่สร้างขึ้นเองของคุณออมมี่ และคุณแบงค์ -ปรีดากร เมรเกรียงชัย Co-Founder แห่งแบรนด์ Gentle RAM บ้าน ที่ตอบโจทย์รสนิยมของทั้งสองที่หลงใหลในความ Timeless และการอยู่อาศัยที่อยู่สบาย เรียบง่าย พร้อมจัดระเบียบชีวิตในบ้านได้อย่างลงตัว บ้านที่ทุกพื้นที่ และทุกฟังก์ชั่นที่ทาง THE OTHERS ผู้ออกแบบได้ขบคิดมาอย่างพิถีพิถันไม่ต่างกับเสื้อผ้าที่เทรลเลอร์เมดให้พอดีกับเจ้าของบ้าน

    EVERYTHING TEAM2 months ago
  • DESIGN/Architecture

    เรียนรู้แนวคิด “Karamarishiro” ปรัชญาทางสถาปัตยกรรมของ Akihisa Hirata สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ทรงอิทธิพลระดับโลก

    หนึ่งในกิจกรรมจากเวที TOSTEM Asia Design Award (TADA) ซึ่งจัดขึ้นโดย TOSTEM เพื่อเฟ้นหาผลงานสถาปัตยกรรมในเอเชีย ที่มุ่งให้ความสำคัญกับเรื่องของธรรมชาติ ผสานเข้ากับนวัตกรรมการอยู่อาศัยสมัยใหม่ ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งาน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ซึ่งนอกจากผู้ชนะรางวัลจะได้ร่วมเดินทางไปรับรางวัลที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังได้พบปะกับ Akihisa Hirata สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่มาแชร์มุมมองแนวคิดการออกแบบโปรเจกต์ต่าง ๆ ตั้งแต่งาน Installation Art บ้านพักอาศัย จนถึงอาคารสาธารณะ ซึ่งความน่าสนใจนอกเหนือจากเอกลักษณ์ภาษาทางสถาปัตยกรรมที่ถ่ายทอดผ่านฟอร์ม และสเปซที่โดดเด่น และเป็นที่จดจำแล้วนั้น สำคัญคือปรัชญาหลักที่เป็นรากฐานความคิดของ Hirata สู่การพัฒนาเป็นสถาปัตยกรรมน่าทึ่งเหล่านั้น ซึ่งเราจะมาเจาะลึกแนวคิดที่ว่านั้นกัน

    By TOSTEM
    EVERYTHING TEAM2 months ago
  • DESIGN/Architecture

    เจาะลึกแนวคิด 2 ผลงานออกแบบจากภาคเหนือ ที่ชนะรางวัล TOSTEM ASIA DESIGN AWARD 2024

    ผสานบริบทธรรมชาติ สอดรับกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมถ่ายทอดสู่เอกลักษณ์ภาษาทางสถาปัตยกรรม ที่เติมเต็มทั้งสุนทรียศาสตร์ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้อยู่อาศัยได้ทุกมิติ คือจุดร่วมหลักของสองผลงานออกแบบบ้านที่ตั้งอยู่ใน 2 จังหวัดทางภาคเหนือ ที่คว้ารางวัล TOSTEM ASIA DESIGN AWARD 2024 (TADA 2024) ในกลุ่มประเภท “Special Mention for Sustainable Living” มาครอง

    By TOSTEM
    EVERYTHING TEAM3 months ago
  • DESIGN/Architecture

    เชื่อมบริบทธรรมชาติของเมือง Hefei สู่จิตวิญญาณของ 3 โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำในจีน ที่ออกแบบโดย HAS design and research

    ขึ้นชื่อว่าเป็นโปรเจกต์ออกแบบโดย HAS design and research ของสองสถาปนิกฝีมือแถวหน้าอย่าง คุณเจอร์รี่ หง (Jenchieh Hung) และคุณป้อ-กุลธิดา ทรงกิตติภักดี (Kulthida Songkittipakdee) แล้วนั้นรับรองว่ามิติที่ลึกซึ้งกว่าเรื่องของฟอร์มอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ทุกคนต่างทึ่งไปกับงาน“Aluminum Grotto and Public Ground” งานอินสตอลเลชันสุดอลังการที่จัดแสดงในงานสถาปนิก’67 ก็เป็นตัวอย่างของการผสานองค์ประกอบเรื่องของพื้นผิว-พื้นที่-โครงสร้าง-ฟังก์ชั่นให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ภาษาทางสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ และเชื่อมระหว่างภูมิทัศน์ธรรมชาติ ศิลปะเชิงช่าง และวัสดุอุตสาหกรรมได้อย่างน่าตื่นตา มาถึงโปรเจกต์ใหม่ที่เป็นงานออกแบบรีเทลนี้ ทาง HAS ได้พยายามข้ามขนบบางอย่างของการออกแบบพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั่วไป เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ที่ได้ไปเยือน

    EVERYTHING TEAM3 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )