LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
สตรีทแวร์ จริงๆ เฌอแต่งตัวสไตล์นี้อยู่แล้วนะ ตอนแรกที่ EVERYTHING ติดต่อมา เฌอคิดว่าจะเป็นแนวสตรีทแบบกางเกงลายๆ ขาโปร่งๆ ตัวใหญ่ๆ แล้วก็ออกแนวผู้หญิงหน่อย ไม่คิดว่าจะสตรีทขนาดนี้ (หัวเราะ) แต่เฌอก็ชอบนะคะ! ส่วนตัวเฌอชอบใส่เสื้อฮู้ด เสื้อตัวใหญ่ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบอยู่แล้วด้วย
การแต่งคอสเพลย์เป็นความชอบของเฌอ ส่วนตัวมองว่ามันก็เป็นแฟชั่นแบบนึงนะ เรารู้สึกว่าอยากแต่งตัวตามตัวการ์ตูนบ้าง โดยทำอาร์ตเวิร์คที่เราคิดว่าทำจริงไม่ได้ให้กลายเป็นจริงได้ ดีไซน์ออกมาให้เหมือนตัวการ์ตูนมากที่สุด ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ Contrast กับตัวตนเฌอมากเลยค่ะ เพราะปกติจะเป็นคนไม่แต่งตัวเลย หยิบเสื้อตัวไหนได้ก็ใส่เลย ตัวที่ถูกพับอยู่ข้างบนสุดก็จะถูกหยิบบ่อยสุด (หัวเราะ)
เฌอเป็นคนที่เซ้นส์แฟชั่นเป็นศูนย์มากเลยอ่ะ เวลาเฌอแต่งตัวก็มักจะโดนว่า (หัวเราะ) เฌอเป็นคนชิลล์มากกับเรื่องการแต่งตัว เฌอมองว่าใครจะเป็นอะไรหรืออยากจะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ถ้าเป็นสิ่งที่เขาชอบ แต่ก็ต้องดูกาลเทศะกันนิดนึง และถ้ามีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองก็จะทำคอลเล็คชั่น เสื้อฮู้ดค่ะ สีดำ สีขาว สีเทา เรียบๆ ไม่มีลวดลาย ใส่ไปไหนก็ได้ กันหนาวก็ได้ แถมใส่ลุยป่าได้ด้วย อย่างที่ถ่ายวันนี้มีเสื้อตัวนึงที่เฌอชอบ เป็นฮู้ดสีเงินๆ ใส่กับเสื้อลายทหาร มันเท่มากเลย ถึงแม้ว่ามันจะร้อนบ้างก็ตาม (หัวเราะ)
สิ่งของที่รู้สึกว่ามัน ‘เท่’ ทุกครั้งที่เห็น
มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ค่ะ คันใหญ่ เห็นแล้วรู้สึกว่ามันคูลดี ยิ่งเวลาอยู่ในสนามแข่งแล้วยิ่งเท่ไปใหญ่ อยากขับบ้าง แต่ร่างกายไม่อำนวยค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็นาฬิกาค่ะ คนใส่นาฬิกามันดูเท่ดี และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือ เสื้อฮู้ดค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรถึงชอบมากขนาดนี้ ความมีฮู้ดห้อยทิ้งไว้ข้างหลังมันเท่มากสำหรับเฌอ
หลายคนเลยค่ะ แบบว่าโตมากับเพลงพวกพี่เขาเลยก็มีพี่แคทรียา อิงลิช เพลง O.K. นะคะ, ผีเสื้อราตรี, พี่ไอซ์ ศรัณยู แล้วก็พี่เบิร์ด ธงไชย ซึ่งล่าสุดเฌอเพิ่งไปขึ้นคอนเสิร์ตกับพี่เบิร์ด มาค่ะ ดีใจมากเลย ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ไปยืนอยู่ข้างๆ ผู้ที่เป็นตำนานของเมืองไทย เมื่อตอนเฌอเด็กๆ มีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ดที่อิมแพ็คด้วยค่ะ รู้สึกว่าคอนเสิร์ตของพี่เขายิ่งใหญ่มาก แต่ครั้งนี้เฌอและวงได้ไปยืนอยู่บนคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ดแล้ว มันเป็นความรู้สึกทั้งดีใจและตื้นตันใจมากๆ ค่ะ ไม่คิดว่าชีวิตเด็กคนนึงจะได้ไปทำอะไรแบบนั้น
เฌอชอบแนวร็อกๆ นะ อย่างวง ONE OK ROCK ไม่ได้ร้องว้ากมากมายอะไร แต่จังหวะมันจะปลุกอารมณ์เฌอได้ และอย่างเวลาที่เฌอจะต้องขึ้นเวทีเฌอก็จะไหว้เวทีก่อนทุกครั้ง เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ที่เราไปทำงาน ทำสมาธิ แล้วก็ปลดปล่อย Energy ออกมาด้วยการบูมค่ะ
การกระทำย่อมดีกว่าคำพูดเสมอ จริงไหม?
คำพูดก็คือคำพูด แต่ว่าสิ่งที่พิสูจน์และทำให้เห็นได้คือการกระทำ เฌอเชื่อว่าถ้าเราลงมือทำ ไม่ว่าจะมากจะน้อย สักวันจะมีคนเห็น หรือถ้าไม่มีใครเห็น อย่างน้อยก็มีตัวเราที่เห็น และเราก็จะไม่รู้สึกผิดกับตัวเราเอง เพราะเราได้ทำมันแล้ว เราไม่ได้ปล่อยผ่านไปเฉยๆ ผิดถูกยังไงเราก็ได้ทำ อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์ เพราะฉะนั้นการกระทำมันดีกว่าคำพูดอยู่แล้วค่ะ ด้วยความพยายามหรืออะไรก็ตามที่ดูเป็นคำพูดสวยหรู เฌอก็ไม่รู้ว่าความพยายามในคำพูดของแต่ละคนมันเท่าไหร่ เป็นแบบไหน ความอดทนของแต่ละคนวัดได้ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น การกระทำของแต่ละคนจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเขาเอง พิสูจน์กับตัวเราเองว่า เราสุดกับมันแล้วจริงๆ หรือเปล่า ตัวเฌอจะเป็นพวกที่รู้สึกนอยเวลาที่ตัวเองทำได้ไม่เต็มที่ ไม่อยากมาคิดตอนหลังว่าทำไมเวลานั้นฉันไม่ทำให้มันดีกว่านี้ ไม่อยากมารู้สึกเสียดายทีหลัง ก็เลยลุยกับทุกอย่างไปเลยค่ะ คนอื่นจะมองว่าเฌอเป็นคนสุดโต่งไปซะทุกเรื่อง
ก็คงเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นค่ะ หลังจากที่ผ่านอะไรหลายๆ อย่างมา หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเฌอเริ่ม Sensitive มากขึ้น บางทีไปดูหนังแล้วร้องไห้ออกมาเลย ทั้งที่เมื่อก่อนหนังแบบนี้เราไม่ร้องนะ แล้วก็เรื่องเวลาเฌอทำอะไรก็จะทำตามอารมณ์ ถ้าเป็นเวลาทำงาน อารมณ์เฌอก็จะหายไป แล้วโฟกัสแต่เรื่องงาน กลายเป็นคนจริงจังแล้วก็ดูเครียด เพราะถ้าเฌอจริงจังกับงานปุ๊บก็จะดูน่ากลัวขึ้นมาทันที แล้วก็มีเพื่อนเพิ่งมาบอกเหมือนกันว่า อยู่กับเฌออะ อยู่ได้นะ เพราะเฌอเป็นคนติ๊งต๊องระดับนึง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องทำงานกับเฌอเนี่ยเขาก็จะเริ่มปวดหัวทันที (หัวเราะ)
ก็คงเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นค่ะ หลังจากที่ผ่านอะไรหลายๆ อย่างมา หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเฌอเริ่ม Sensitive มากขึ้น บางทีไปดูหนังแล้วร้องไห้ออกมาเลย ทั้งที่เมื่อก่อนหนังแบบนี้เราไม่ร้องนะ แล้วก็เรื่องเวลาเฌอทำอะไรก็จะทำตามอารมณ์ ถ้าเป็นเวลาทำงาน อารมณ์เฌอก็จะหายไป แล้วโฟกัสแต่เรื่องงาน กลายเป็นคนจริงจังแล้วก็ดูเครียด เพราะถ้าเฌอจริงจังกับงานปุ๊บก็จะดูน่ากลัวขึ้นมาทันที แล้วก็มีเพื่อนเพิ่งมาบอกเหมือนกันว่า อยู่กับเฌออะ อยู่ได้นะ เพราะเฌอเป็นคนติ๊งต๊องระดับนึง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องทำงานกับเฌอเนี่ยเขาก็จะเริ่มปวดหัวทันที (หัวเราะ)
PLACES + FRESH
สถานที่ที่เฌอชอบ ที่แรกเลยที่นึกถึงคือ เฌอเคยไปชานเมืองของประเทศอังกฤษมาค่ะ มันเป็นบรรยากาศที่สงบ และมีต้นไม้เยอะมาก เฌอชอบความร่มรื่นของที่นั่น อากาศก็เย็นๆ เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ อาบแดด จิบชา มันรู้สึกสดชื่นดีค่ะ ส่วนอีกที่ก็คือ ประเทศญี่ปุ่น เฌอชอบบรรยากาศของการทำงานของคนที่นั่น ความเป็นระบบระเบียบ ความสะดวกสบายของการเดินทาง มันโอเคมากๆ ส่วนในไทยเฌอชอบการไปตั้งแคมป์ต่างจังหวัด ไปนอนดูดาวบนหน้าผา บรรยากาศตอนเช้าที่น้ำค้างลง พร้อมกับดูพระอาทิตย์ขึ้น รู้สึกเหมือนกับได้ปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศในตอนนั้น ฟินมากเลย
เริ่มจากคำว่า “DESIGN” เฌอว่าทุกอย่างมันคือดีไซน์นะ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพก็เกิดจากการดีไซน์ การออกแบบบ้านก็คือการดีไซน์ การวางแผนมันก็คือการดีไซน์รูปแบบการทำงานอย่างนึง ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านกระบวนการคิด การออกแบบ จินตนาการ สิ่งที่อยู่ในหัวเรามันจะออกมาเป็นแบบไหน พัฒนาให้ดีขึ้นอย่างไร จริงๆ ในวิทยาศาสตร์ก็มีคำว่าดีไซน์ค่อนข้างเยอะนะคะ เราต้องดีไซน์ให้วัสดุให้มันดูดีบ้าง ให้ทำงานง่ายบ้าง ลำดับขั้นตอนควรเป็นยังไง ทั้งหมดก็คือการดีไซน์อย่างนึง
“STYLE” ในความหมายของเฌอก็คือ สิ่งที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเรา หรือตามความชอบของเรา เฌอมองว่าสไตล์มันคือรูปแบบที่คนกำหนดขึ้นมาอย่างเช่น สไตล์จีน สไตล์เกาหลี สไตล์ไทย สไตล์โลลิตา สไตล์เนี้ยบ สไตล์เซ็กซี่ อย่างวันนี้เฌอก็สไตล์ฮิปฮอป สตรีทๆ หน่อย
ส่วนคำว่า “CULTURE” เฌอมองว่าเป็นสิ่งที่คนในแต่ละพื้นที่มีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีคัลเจอร์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ คัลเจอร์ความเด่นชัดแตกต่างกัน อย่างคัลเจอร์ของเฌอคือเฌอเป็นคนไทย การไหว้คือคัลเจอร์ของเฌอ อาหารก็จะชอบกินต้มยำกุ้ง ส้มตำอะไรพวกนี้ค่ะ
ในฐานะกัปตันของ BNK48 มีสิ่งไหนที่อยากทำมากกว่าที่เป็นอยู่
ในฐานะของการเป็นกัปตัน BNK48 ซึ่งเฌอไม่รู้ว่าสิ่งที่เฌอทำอยู่มันตามขอบเขตหน้าที่หรือยังนะคะ แต่สิ่งที่เฌอรู้สึกว่าอยากทำมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของการได้คุยกับน้องๆ มากขึ้นค่ะ เฌอรู้สึกว่ายังรู้จักน้องบางคนได้ไม่มากพอ รู้คร่าวๆ ว่าใครชอบอะไร ประมาณไหน คาแรคเตอร์ของแต่ละคนเป็นยังไง แต่ความต้องการหรือสิ่งที่น้องๆ เขาอยากทำจริงๆ มันคืออะไร บางทีเราก็ยังไม่เข้าใจ หรือบางทีเราก็ไม่มีเวลาไปหาพวกเขามากเท่าไหร่ด้วย เฌอเลยอยากทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้นกว่านี้ ได้แชร์ความคิดร่วมกัน และส่งเสริมพวกเขาให้มากที่สุดค่ะ
ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เฌอเข้าใจระบบการทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น มีเพื่อนในสายงานต่างๆ มากขึ้น และเฌอก็โตขึ้นค่ะ รู้สึกว่าเรานิ่งขึ้นกับหลายๆ เรื่อง เหมือนเราได้เผชิญมันจริงๆ แล้วเราผ่านมันมาได้ ทำให้เรื่องบางเรื่องมันดูเล็กไปเลย แต่ต้องเผชิญก่อนนะ พอผ่านมันมาแล้วก็จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาเป็นประสบการณ์ให้เฌอได้ลองผิดลองถูก ให้เฌอได้คิดมากขึ้น รอบคอบมากขึ้น เรามีประสบการณ์มาแล้ว ก็พอจะคาดเดาได้ว่าถ้าทำแบบนี้แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ถ้าไม่ทำแล้วจะเป็นอย่างไร
เป้าหมายต่อไปสำหรับเฌอ เฌอรู้สึกว่าตอนนี้มันเกินเป้าหมายมาเยอะมากแล้วค่ะ คงมองเป็นเป้าหมายของวง ที่ผ่านมาเราได้ขึ้นเล่นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีแล้ว เป้าหมายต่อไปเราอยากจัดคอนเสิร์ตที่สนามราชมังคลาฯ ค่ะ
เรื่องของการทำงาน เฌออยากทำงานที่หลากหลายมากขึ้น เฌอเริ่มชอบการแสดง รู้สึกอยากลองท้าทายบทบาทใหม่ๆ รวมถึงงานถ่ายแฟชั่น งานถ่ายแบบ เพิ่งมารู้ตัวว่าเฌอชอบการถ่ายรูปมากที่สุด หลังจากที่ได้ลองทำงานมาหลายประเภท เฌอว่าการถ่ายรูปมันเป็นอะไรที่แสดงตัวตนของเราได้ และเรารู้สึกดี พอยิ่งได้มาอยู่ BNK48 เราก็ยิ่งได้ถ่ายรูปมากขึ้น การถ่ายทอดเรื่องราวออกมาผ่านภาพ 1 ภาพ เฌอว่ามันเจ๋งมากๆ เลยนะ
สุดท้ายนี้ก็ขอฝากแฟชั่นเซ็ตนี้ของเฌอด้วยนะคะ ทีมงานทุกคนตั้งใจทำมากๆ เฌอเห็นงานดีไซน์ของเล่มนี้แล้วก็ชอบมากด้วย ตั้งแต่หน้าปกที่มีหลากหลายแบบมากเลย เฌอดีใจมากที่ได้มาถ่ายแบบกับ EVERYTHING และหวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
INTERVIEW : CHERPRANG BNK48 มุมมองความคิดและตัวตนของเฌอปราง อารีย์กุล
/
ทันทีที่ Key Visual สถาปนิก’ 68 เผยแพร่ออกมา บทสนทนาปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวทุกคนพร้อมใจกันทำงานแบบ Autopilot และระหว่างที่ตามหาเฉลยกันจริงจัง ทุกคนเริ่มหันมาตั้งคำถามต่อว่า Art Toys เกี่ยวข้องกับธีมงานอย่างไร รู้ตัวอีกทีวงสนทนาก็กระเพื่อมขยายกว้างขึ้น ส่งสัญญาณชัดว่า Key Visual ปีนี้เปิดฉากมาแบบสนุกเอาเรื่อง โดนเส้นกันสุดๆ
/
วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว
/
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ
/
Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia
/
ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน
/
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีวงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ KIKI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ก็เพราะด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )