LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING


Sky Park
สวน / สะพาน / บ้าน / จุดชมวิว
สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา (Chao Phraya Sky Park)

เส้นขอบฟ้าของเมืองกรุงมีตึกสูงมากมายแต่งแต้มสีสัน โค้งน้ำทอดตัวลัดเลาะสองฟากฝั่งชุมชน ณ พื้นที่สีเขียวตรงกลาง ผู้คนเดินทอดน่องชมวิว ที่นี่คือ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา สถานที่ซึ่งการเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากินระยะเวลามาเนิ่นนานกว่าสามสิบปี
การเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาของสะพานแห่งนี้เริ่มต้นเมื่อกว่าสามสิบปีที่แล้ว โดยได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นสะพานรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทยในชื่อ ‘รถไฟฟ้าลาวาลิน’ แต่เมื่อฝันนั้นไม่กลายเป็นจริง โครงสร้างนี้ถูกทอดทิ้งให้รกร้างอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยามาเนิ่นนานจนถูกเรียกขานว่าเป็น ‘สะพานด้วน’ สะพานซึ่งไม่มีทั้งทางขึ้นและทางลง จนกระทั่งในปีนี้ การเดินทางก็มาถึงจุดหมายในที่สุด สะพานด้วนได้รับการออกแบบเป็นสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าที่เชื่อมต่อชุมชนฝั่งธนบุรีและกรุงเทพเข้าหากัน

สวนลอยฟ้าเจ้าพระยาได้รับการออกแบบให้เป็นทางเดิน-จักรยานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นทีสีเขียวระดับเมืองที่มีประโยชน์ต่อชุมชนและสาธารณะ เชื่อมต่อโครงข่ายทางจักรยานรอบเมืองเก่า ส่งเสริมศักยภาพจุดเปลี่ยนถ่ายทางเรือบริเวณท่าเรือสะพานพุทธ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมฝั่งรัตนโกสินทร์และธนบุรี และสร้างภูมิสัญลักษณ์ (Landmark) ที่มีชีวิตชีวาให้ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง


จากทำเลกลางโค้งน้ำเกิดเป็นมุมมองใหม่ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เปิดมุมมองเห็นสถาปัตยกรรมที่สำคัญจากสองฟากฝั่งของเมืองกรุง ทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รายล้อมอยู่ในย่านข้างเคียงเช่น สะพานพุทธฯ พระบรมราชานุสาวรีย์พระปฐมบรมราชานุสรณ์ฯ สะพานพระปกเกล้า วัดวาอารามต่างๆ รวมไปถึงตึกระฟ้าในย่านศูนย์สีลมและสาทรที่ตั้งตะหง่านเป็นฉากหลังห่างไกลออกไป สวนลอยฟ้าแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยใส่ใจในรายละเอียดเรื่องมุมมองกลางสะพาน ผืนนำ้และผืนฟ้า และ Skyline เมือง เพื่อนำเสนอวิวของกรุงเทพในมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ

ทีมออกแบบนำแนวคิดการใช้ Double Space มาใช้ในสวนลอยฟ้าแห่งนี้ ทำให้เกิดเป็นการยกระดับที่ว่างซึ่งซ้อนทับกันอยู่ระหว่างทางและเปิดรับมุมมองกรุงเทพแบบ 360 องศาจากกลางแม่น้ำ การซ้อนทับของพื้นที่ต่างระดับได้รับการถ่ายทอดออกมาในลักษณะ Amphitheater หรืออัฒจันทร์ ที่มีอยู่สองจุด โดยแต่ละจุดหันหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อรับชมปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นเป็นประจำเพียงวันละสองรอบสอดคล้องกับวงโคจรของระบบสุริยะจักรวาล ทำให้เกิดเป็นSunrise Amphitheater และ Sunset Amphitheater จุดนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ


ตลอดเส้นทางเดิน 280 เมตรบนสวนสวยลอยฟ้า แมกไม้นานาพันธุ์ได้รับการเลือกเฟ้นมาอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ต้นไม้ประธานที่ให้ร่มเงาอย่างต้นมะกอก ไม้ดอกเอาใจคนชอบถ่ายรูปอย่างชงโค ต้อยติ่ง เอื้องหมายนา ยี่โถ และต้นรัก ไปจนถึงสมุนไพรและผักสวนครัวอย่างหญ้าหนวดแมว โหระพา ชาข่อย และชะพลู พืชพรรณเหล่านี้ไม่เพียงคัดเลือกมาเพื่อความสวยงาม หากยังคัดสรรมาเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับระบบนิเวศในเมือง เกิดเป็น Micro Habitat ที่ซึ่งผู้คนได้มาพักผ่อนท่ามกลางความร่มรื่น ในขณะที่นก ผึ้งและแมลงก็ได้มีแหล่งอาหารและที่พักพิงอาศัย





การเปลี่ยนสะพานด้วนเป็นสวนลอยฟ้าแห่งนี้คือหนึ่งในโครงการฟื้นฟูเมืองนำร่องที่มีศักยภาพในโครงการกรุงเทพฯ 250 โดยเกิดจากความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย ทั้ง สำนักงานผังเมือง กรุงเทพมหานคร ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า เขตพระนคร เขตคลองสาน เขตธนบุรี โดยมี N7A สนับสนุนการออกแบบสถาปัตยกรรม และ LandProcess สนับสนุนการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม
สวนลอยฟ้าเจ้าพระยาคือภาพของอนาคตที่จะกลายเป็นต้นแบบในการจุดประกายให้เห็นศักยภาพของโครงสร้างทิ้งร้าง เพื่อนำโครงสร้างเหล่านี้ที่มีอีกมากมายในเมืองมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เกิดแนวคิดที่จะ Up-cycle คอนกรีตที่เป็น Carbon Footprint เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีของคนในเมือง เปลี่ยน Gray Infrastructure ให้กลายเป็น Green Infrastructure ให้ผู้คนและสิ่งมีชีวิตได้ใช้ประโยชน์และอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว

ณ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา การเดินทางข้ามสายน้ำเพื่อเชื่อมชุมชนให้คนสองฟากฝั่งเดินข้ามหากันดำเนินไปอย่างไม่รีบร้อน ผู้คนทอดน่องสัญจรไปท่ามกลางต้นไม้ใหญ่น้อยที่คอยให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง สองข้างของสะพานขนาบด้วยมุมมองของเมืองกรุงที่มีเอกลักษณ์จากสถาปัตยกรรมเก่าแก่และตึกสูงระฟ้า มีที่ให้หยุดพักนั่งรับแสงแดดอ่อนๆ ในมุมมองที่สวยงามยามเช้าและเย็นย่ำ แม้การเดินทางครั้งนี้จะกินระยะเวลาเนิ่นนานกว่าสามสิบปี แต่ก็เป็นความแช่มช้าที่คุ่มค่าต่อการรอคอย
Chao Phraya Sky Park I การเดินทางที่แช่มช้าแต่คุ้มค่าต่อการรอคอยกับสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา
/
DUCTSTORE the design guru และ THE OTHERS ภายใต้การนำของนนทวัฒน์ เจริญชาศรี Design Director ได้รับรางวัล German Design Award 2025 อีกหนึ่งเวทีระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับรางวัลออกแบบระดับนานาชาติมากมายในช่วงที่ผ่านมา เช่น Red Dot Award: Grand Prix / Best Of the Best / Winner สาขา Brands and Communication Design 2024, iF Design Award 2024, DFA Design for Asia Awards 2023,2024 และ Golden Pin Design Award 2023,2024
/
TOSTEM ฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 102 พร้อมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ร่วมส่งต่อความทรงจำสวยงามให้กับลูกค้า ภายใต้เคมเปญ “The Sensory Symphony” ถ่ายทอดความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมสร้างความสุขยั่งยืนให้กับทุกคน เริ่มต้นจากที่ TOSTEM Showroom สาขา Crystal Design Center ที่เนรมิตบรรยากาศใหม่ให้เสมือนบ้านหลังอบอุ่นที่สดชื่นสวยงาม พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกคนให้มีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน
By TOSTEM/
จาก 762 ผลงานที่ได้รับรางวัล "Red Dot Award: Brands and Communication Design 2024" มีทั้งหมด 59 ผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น "Best of the Best" จากนั้นจะมีเพียง 6 ผลงานเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลทรงเกียรติสูงสุด “𝗥𝗲𝗱 𝗗𝗼𝘁: 𝗚𝗿𝗮𝗻𝗱 𝗣𝗿𝗶𝘅” ที่น่ายกย่องด้วยความเหนือชั้นทั้งความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพการออกแบบที่ยอดเยี่ยม โดยปีนี้สร้างความฮือฮา เพราะเป็นปีแรกที่มีผลงานจากประเทศไทย 1 รางวัลที่สามารถผงาดคว้ารางวัลสูงสุด และได้บันทึกเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของ Grand Prix ระดับโลกเรียบร้อยแล้ว นั่นคือผลงาน JORAKAY PAVILION 2024 ออกแบบโดย DUCTSTORE the design guru
/
จาก 762 ผลงานได้รับรางวัล Red Dot Award: Brands and Communication Design 2024 มี 59 ผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Best of the Best แต่เพียง 6 ผลงานเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลทรงเกียรติสูงสุด “Red Dot: Grand Prix” ในปีนี้ ทำให้ใคร ๆ ต่างจับจ้องไปยังทั้ง 6 ผลงานที่ได้รับยกย่องและการันตีความเหนือชั้นจาก Red Dot เวทีด้านการออกแบบระดับโลกที่มีชื่อเสียงหลายทศวรรษ
/
ชวนทุกคนมาที่แฟลกชิพโชว์รูมแห่งแรกของ WDC บนถนนรัชดา ซึ่งตั้งบนพื้นที่กว้างขวางถึง 1,500 ตร.ม. จัดเต็มนวัตกรรมและดีไซน์กระเบื้องที่หลากหลาย ให้ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ ทุกสไตล์ และทุกความต้องการของลูกค้า
By WDC/
เปิดอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับแฟลกชิพโชว์รูมแห่งแรกของ WDC บนถนนรัชดา ที่ได้จัดงาน Grand Opening แบบ Exclusive Night! ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Pleasure of Design” ที่พาทุกคนพบกับมุมมองใหม่ ๆ ในโลกงานกระเบื้องของ WDC ในบรรยากาศุดคึกคักที่มีทั้งนักออกแบบ สถาปนิก และพันธมิตรของ WDC มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เอนจอยกับปาร์ตี้ที่มีมิตรภาพ อาหาร และเครื่องดื่มไม่อั้น พร้อมชมนวัตกรรมกระเบื้องของ WDC ที่มีหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ทุกการออกแบบ ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมกระเบื้องแห่งอนาคตที่มีคุณสมบัติพิเศษ กระเบื้องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนถึงกระเบื้องหลากสีสันดีไซน์
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )