หนังห้าเรื่องที่ เต๋อ นวพล ดูแล้วอุทานว่า “ไอ้สั๊สส!!!” ด้วยเสียงน้าค่อม | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

ในฐานะผู้กำกับ เต๋อ - นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ มีลายเซ็นในหนังของตัวเองอย่างชัดเจน แต่เต๋อบอกว่าระยะหลังเขาชอบดูหนังที่ดูแล้วเกิดคำถามต่างๆ ตามมามากกมาย เขาบอกว่า “หลังๆ ผมดูหนังแบบมั่วๆ ไม่ค่อยได้สนใจว่ามันดีหรือเปล่า หรือมันเป็นหนังคุณภาพนะ ผมดูหนังไปเรื่อยมากกว่า สำหรับผมการดูหนังในตอนนี้คือเหมือนเราเก็บกระเป๋าไปทัวร์โลกในหัวผู้กำกับ ว่าในหัวมีอะไรบ้าง กูอยากไปเจอของใหม่ๆ บ้าง ในฐานะคนทำหนังเราไม่ควรติดกับตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะเปลี่ยนแนวนะ แต่เราอยากออกไปจากโลกที่เราคุ้นเคยบ้างมากกว่า” IAMEVERYTHING เลยลองถามเล่นๆ ว่าหนังที่เขาดูแล้วถึงกับเกาหัวอุทานว่า “อะไรของมึงวะเนี่ย” ห้าเรื่องนั้นมีอะไรบ้าง

“ก่อนหน้านี้เวลาเราทำหนังผมรู้สึกว่าเราต้องใช้เหตุผลมากเลย การเล่าเรื่องหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ตัวละครต้องไปเจอไปทำมันต้องมีเหตุผลนะเว้ย แต่เรื่องนี้เป็นหนังที่ดูแล้วทลายทุกกฎที่ผมเคยเจอเลยนะ เหมือนผู้กำกับ (จีน สตูปนิตสกี) มันอยากทำหนังแบบ เซ็ธ โรแกน พูดเหี้ยๆ แต่ตัวละครเป็นเด็กประถมมาพูดเสื่อมๆ เหี้ยๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าน้อง จาค็อบ เทรมเบลย์ เขารับเล่นเรื่องนี้ได้ยังไง เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึก what the f**k มาก แบบว่ามึงทำแบบนี้ก็ได้เหรอวะ ไม่มีเหตุผลเลย แล้วกูก็เชื่อด้วยนะ ตอนดูในโรงน่ะ แบบ เออก็ได้ ก็ได้ กูเชื่อ อันนี้เป็นหนังรุ่นใหม่ๆ ที่ดูแล้วแบบ เออ มึงไร้สาระแต่ก็ดีว่ะ”

รู้จัก “Good Boy” https://www.imdb.com/title/tt7343762/

“เป็นหนังที่ผมสงสัยว่า อดัม แมคเคย์ มันเป็นคนยังไงถึงทำหนังแบบนี้วะ มันเหมือนเรามีเพื่อนกี๊คๆ (Geek) คนหนึ่งมาถามเราว่า ‘เฮ้ย มึงพอมีเวลาว่างสักสามชั่วโมง เดี๋ยวกูเล่าเรื่องตลาดหุ้นให้ฟัง’ แล้วสามชั่วโมงนี้แม่งเล่าอย่างเร็วเลยนะ ไม่มีหยุดพักเลย แล้วพอดูจบแล้วเราถามตัวเองว่า มึงรู้เรื่องหรือเปล่าวะ...ก็ไม่นะ (หัวเราะ) มันเหมือนผู้กำกับมันเปิดไฟล์คีย์โน้ตเล่าเรื่องให้เราฟังแล้วมันกดสไลด์รัวๆ เร็วๆ จนจบสามชั่วโมง พอดูจบผมถามตัวเองว่าแล้วตกลงมึงรู้สึกยังไงกับหนังเรื่องนี้วะ แต่เชื่อไหมว่านี่เป็นหนังที่ผมย้อนกลับมาดูบ่อยมาก เพราะตอนแรกกูดูไม่ทัน (หัวเราะ) ต้องมาดูใหม่ ไหนมึงยังไงนะ ขออีกทีสิ ซึ่งผมว่าผู้กำกับแบบนี้แหละ เป็นผู้กำกับที่เก่งและมั่นใจ แบบว่า ‘กูจะเล่าของกูแบบนี้แหละ ดูไม่ทันก็เรื่องของมึง’ อดัม แมคเคย์แม่งต้องเห็นภาพทุกอย่างในหนังของมันแล้วจริงๆ แต่ผมว่าเจ๋งนะ เพราะเรื่องตลาดหุ้นแบบนี้ผู้กำกับส่วนใหญ่เขาจะเล่าให้เครียด ดราม่า แต่มันเล่าให้ตลกได้ แต่พอจบก็กลับมาเครียดแบบเดิม เป็นหนังคุณภาพที่เสือกตลกเฉย เก่งมาก ไม่รู้ทำได้ไง

รู้จัก “Big Short” https://www.imdb.com/title/tt1596363/

“อันนี้ก็โคตร Supervisual เหลือเกิน และต้องดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ถ้าไม่ได้ดูในโรงมันเท่ากับไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้จริงๆ เพราะมันต้องดูในที่มืดๆ และจอใหญ่ๆ ไอ้พวกฉากแว้บๆ แสง สโตรคต่างๆ มันจะทำงานกับสายตาเราได้อย่างสุดๆ ไม่รู้ใครออกเงินให้มัน (กาสปาร์ โนต์) ทำ ดูแล้วแบบ... ‘นี่คือเหี้ยอะไรครับเนี่ย อยู่ดีๆ มึงก็กลายเป็นผี กูตามไม่ทัน อะไรแบบนี้’ คือผมชอบที่ผมใช้ศักยภาพของการเป็นภาพยนตร์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากๆ เท่าที่จะทำได้กับเนื้อเรื่อง คิดว่าเป็น experience ที่ต้องดูในโรงเทานั้น เพราะนอกจากแสงสโตรคต่างๆ ที่อลังการแล้ว คัตติ้งของมันยังทำงานอย่างมีความหมาย เพราะหนังมันเป็นเหมือน point of view ของตัวละคร เวลาตัวละครกะพริบตา พึ่บบ...เหมือนเอาเฟรมนึงออกแล้วก็เหมือนตัวละครกะพริบตา เออ ผมรู้สึกว่าแม่งแจ๋วว่ะ ใช้ได้เลย”
.
รู้จัก “Enter the Void” https://www.imdb.com/title/tt1191111/

“ฮาร์โมนี่ย์ โครีน เป็นผู้กำกับหนังอย่าง “Gummo” (1997) เขียนบทหนังเรื่อง “Kids” (1995) “Trash Humpers” มันเป็นหนังที่ประหลาด คือมันถ่ายด้วยกล้องวีดีโอแบบแฮนดีแคม กล้อง Hi8 บ้านๆ อะไรแบบนั้น คือผมไม่รู้จะอธิบายหนังหรือตัวละครของ โครีน ได้ยังไง แต่เอาเป็นว่าตัวละครเป็นคนนะ แต่พวกเขาจะใส่หน้ากากยางที่ดูเป็นคนแก่ หนังเรื่องนี้ก็คือเอากล้อง Hi8 ไปถ่ายคนพวกนี้ในซอยว่าวันๆ พวกเขาทำอะไรกัน ก็แบบ...เอาถังขยะ (หัวเราะ) คือผมไม่รู้ว่าตัวละครมันเป็นยังไงนะ แต่มันให้ประสบการณ์ที่หลอนสัดๆ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นหนัง มันสมมติ แต่ก็รู้สึกว่ามันจริงอยู่ดีน่ะ มันดูน่ากลัว ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ ฮาร์โมนี่ย์ โครีน เขาพูดถึงหนังเรื่องนี้ว่า ‘อยากให้หนังเรื่องนี้มันเหมือนกับคุณเก็บวีดีโอม้วนนึงได้จากถังขยะ แล้วคุณก็สงสัยว่ามันมีอะไร เลยเอากลับมาเปิดดูที่บ้าน แล้วพบว่านี่มันคือเหี้ยอะไรครับ คนพวกนี้มันคือใคร ทำสิ่งต่างๆ ไปทำไม’ เออ รู้สึกว่าเรื่องนี้มัน what the f**k สำหรับผมมาก ดูรอบเดียวแล้วจำได้เลย”

รู้จัก “Trash Humpers” https://www.imdb.com/title/tt1488163/?ref_=nv_sr_srsg_4

MV ส่วนใหญ่ของ The Beastie Boys
“ขอแบบไม่เป็นหนังบ้างแล้วกัน MV ส่วนใหญ่ของ The Beastie Boys สไปค์ จอนซ์ จะเป็นคนกำกับ ซึ่งผมดูทีไรก็ได้แต่...อะไรของมึงวะ...แบบ แต่งตัวเป็นตำรวจปลอม พร็อพฯ ก็ปลอม แล้วมึงมาทำเหี้ยไรกันในนี้ก็ไม่รู้ จังหวะเล่าเรื่องก็ประหลาด มันมีความไม่รู้เรื่องอยู่นิดนึง แต่ที่ผมชอบก็คือ....ส่วนใหญ่ผู้กำกับเล่าเรื่องเขาจะเล่าแบบ narrative ใช่ไหม คือเล่าเรื่องนี้ แบบนี้ เปิดแบบนี้ไปแบบนี้ ไปสู่อันนี้อันนั้น คือยึดเรื่องเล่าเป็นหลัก ไม่มีไม่ได้ เอนเตอร์เทนผู้คนด้วยเรื่องเล่า แต่สายของ สไปค์ หรืออะไรพวกนี้ ก็เจะเป็นสาย experimental คือสายทดลอง เขาจะเชื่อว่าถ้ามึงจะทำหนังเพราะแค่อยากเล่าเรื่องคนสองคนคุยกัน มึงเขียนเอาก็ได้ แต่หนังมันทำอะไรได้มากกว่านั้น แล้วผมเป็นผู้กำกับที่ยืนอยู่บนสองฝ่ายเลย หนังผมก็คิดว่าเรื่องมันสำคัญ แต่ก็อยากทดลองว่าในความเป็นหนังเนี่ยมันทำอะไรเพิ่มอีกได้บ้าง หนังเป็นเครื่องมือเดียวที่ทำอะไรแบบนี้ได้ มันสามารถฉายภาพม้ากำลังวิ่งแล้วตัดกลับมาเป็นหน้าผู้หญิงใกล้ๆ แล้วคนดูจะคิดว่ามันต้องมีอะไรหรือเปล่า Motion Picture เป็นศิลปะที่ทำอะไรแบบนี้ได้ ผมก็เลยรู้สึกว่า เอ็มวี ของพวกนี่มันทะลุกรอบการเล่าเรื่องไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามันเป็นหนังจริงๆ คงไม่น่าสนใจเพราะโดยธรรมชาติคนก็อยากรู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร แต่พอเป็นเอ็มวี มันก็เล่าเรื่องที่ไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้ได้”

    TAG
  • นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
  • เต๋อ
  • movie
  • culture

หนังห้าเรื่องที่ เต๋อ นวพล ดูแล้วอุทานว่า “ไอ้สั๊สส!!!” ด้วยเสียงน้าค่อม

CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE
4 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    งานศิลปะที่หลอมรวมอยู่ในเนื้อกายภาพยนตร์ The Room Next Door ของ Pedro Almodóvar

    ถ้าเอ่ยชื่อของ เปโดร อัลโมโดวาร์ (Pedro Almodóvar) หลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะผู้กํากับเจ้าของ ฉายา “เจ้าป้าแห่งวงการหนังสเปน” ที่นอกจากหนังของเขาจะเต็มไปด้วยลีลาอันจัดจ้าน เปี่ยมสีสัน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแปลกประหลาดพิลึกพิลั่นพิสดารเหนือความคาดหมาย และถึง พร้อมไปด้วยศิลปะภาพยนตร์อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ด้วยความที่อัลโมโดวาร์หลงใหลในศิลปะอย่างลึก ซึ้ง ทําให้มักจะมีงานศิลปะปรากฏให้เห็นในหนังของเขาอยู่บ่อยครั้ง และนอกจากเขาจะหยิบงาน ศิลปะเหล่านั้นมาใช้ในหนังเพราะความหลงใหลและรสนิยมส่วนตัวอันวิไลของตัวเองแล้ว ในหลายๆ ครั้ง ผลงานศิลปะเหล่านั้นยังทําหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว ขับเน้นบุคลิกภาพของตัวละคร และเป็นสัญลักษณ์ที่สัมพันธ์กับเนื้อหาในหนังอย่างแนบเนียน

    Panu BoonpipattanapongJanuary 2025
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Love Lies เรื่องรักจากคำหลอกของหญิงหม่ายและมิชฉาชีพ ผลงานการกำกับครั้งแรกของ Ho Miu Ki

    ท่ามกลางลิสต์ภาพยนตร์ต่อสู้ระทึกขวัญ หรือภาพยนตร์ดราม่าเรียกอารมณ์ผู้ชม ใน Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ที่เดินทางกลับมาฉายในไทยอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีภาพยนตร์กลิ่นอายโรแมนติกอีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันอย่าง Love Lies ที่นำเสนอความสัมพันธ์ของแพทย์หญิงหม่าย ที่รับบทโดย Sandra Ng Kwan-Yue (อู๋จินหยู) ผู้ร่ำรวย และมีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งบังเอิญตกหลุมรักกับวิศวกรชาวฝรั่งเศสวัยกลางคน ที่คอยหยอดคำหวานและคำห่วงใยผ่านแชทมาให้ตลอด จนกระทั่งเธอค้นพบความจริงว่าเบื้องหลังแชทเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยคำลวงจากฝีมือเด็กหนุ่มมิชฉาชีพ ที่รับบทโดย MC Cheung (เอ็มซีเจิ้ง) ดังนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ในภาพยนตร์จึงเป็นการค้นหาคำตอบของเธอในสมการความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าจะจบลงอย่างไร

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Nick Cheuk ผู้กำกับและนักเขียนบท Time Still Turn The Page ภาพยนตร์ทรงพลังที่ท่วมท้นด้วยคำชื่นชมจากทั้งในและนอกฮ่องกง

    ความสำเร็จด้านรายได้กว่า 100 ล้านเหรียญฮ่องกงของ A Guilty Conscience จากการกำกับของ แจ็ค อึ่ง (Jack Ng) สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ที่นับได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของอุตสาหกรรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง และทำให้บรรยากาศของแวดวงนี้ดูจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในสายตาของแฟนหนังทั่วโลก พอ Hong Kong Film Gala Presentation หรือที่ในปีนี้ใช้ชื่อเต็มว่า Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ได้กลับมาจัดอีกครั้งในประเทศไทย ก็ทำให้ลิสต์ในปีนี้เต็มไปด้วยภาพยนตร์คุณภาพที่น่าจับตามองจากฝีมือการกำกับของผู้กำกับรุ่นใหม่ และจากพลังของนักแสดง

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    บทสนทนาเชิงลึกกับสองผู้กำกับหนังสารคดี Breaking The Cycle

    ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้สามารถเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะบอกเล่าแก่คนรุ่นหลังได้ว่าพวกเราซึ่งเป็นประชาชนภายในประเทศนี้ผ่านอะไรกันมา กำกับโดย “เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์” (เอก) ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระจากสงขลา เอกเริ่มกำกับสารคดีสั้นเกี่ยวกับความตายของ กฤษณ์ สราญเศรษฐ์ ลุงของเขาในชื่อเรื่อง “คลื่นทรงจำ” (2561) ซึ่งได้รับรางวัลสารคดีสั้นยอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติ DMZ ที่ประเทศเกาหลีใต้ และได้เข้าฉายในเทศกาลต่างประเทศอีกหลายแห่ง และผู้กำกับอีกคน คือ “ธนกฤต ดวงมณีพร” (สนุ้ก) ผู้กำกับภาพยนตร์และผู้กำกับภาพ ที่ได้เข้าชิงรางวัลช้างเผือกจากเทศกาลภาพยนตร์สั้นแห่งประเทศไทยครั้งที่ 21 จากเรื่อง “ทุกคนที่บ้านสบายดี” (2560) และได้รับเลือกฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไห่ หนาน

    EVERYTHING TEAM10 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    งานศิลปะที่รายล้อมตัวละครในหนังทริลเลอร์จิตวิทยา Inside (2023)

    Inside (2023) หนังทริลเลอร์จิตวิทยาของผู้กำกับสัญชาติกรีซ วาซิลลิส แคตซูพิส (Vasilis Katsoupis) ที่เล่าเรื่องราวของของนีโม (วิลเลียม เดโฟ) หัวขโมยที่ลักลอบเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของสถาปนิกชื่อดัง เพื่อขโมยงานศิลปะราคาแพงที่สะสมอยู่ในนั้น แต่ดันบังเอิญโชคร้ายถูกระบบนิรภัยขังอยู่ภายในคนเดียว ท่ามกลางงานศิลปะที่อยู่รายรอบ จนเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดอยู่ข้างใน โดยอาศัยข้าวของรอบตัว หรือแม้แต่งานศิลปะที่อยู่ในนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือก็ตาม เรียกได้ว่าเป็น Cast Away เวอร์ชันอาชญากรก็ได้

    Panu Boonpipattanaponga year ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Exclusive Talk กับผู้กำกับและนักแสดงนำหญิงจาก “A Guilty Conscience” ภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุร้อยล้านเหรียญฮ่องกง

    ฮ่องกง เมื่อราวสิบยี่สิบปีก่อน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองมาก ๆ ในฐานะประเทศที่ส่งออกภาพยนตร์ออกสู่สายตาของประชาคมโลก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ต่อสู้กำลังภายใน ภาพยนตร์มาเฟีย หรือแม้แต่ภาพยนตร์ชีวิตที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งของหว่องกาไว จนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมฮ่องกง แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้ความคึกคักของภาพยนตร์ฮ่องกงเริ่มเงียบเหงามากขึ้นเรื่อย ๆ จนแฟนหนังฮ่องกงหลายคน ออกปากบ่นคิดถึงความรุ่งเรืองในอดีต ดังนั้นเมื่อเกิดปรากฏการณ์ความนิยมระดับ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ของภาพยนตร์อาชญากรรมอย่าง A Guilty Conscience ขึ้นมาแล้ว แสงที่เคยริบหรี่ก็อาจจะกลับมาสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

    EVERYTHING TEAM2 years ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )